ศึกฟุตบอลโลก 2022 นัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม วันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย. กลุ่ม E คู่บิ๊กแมตช์ เวลา 02.00 น. “กระทิงดุ” สเปน อดีตแชมป์โลก 2010 เจอกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี อดีตแชมป์โลก 4 สมัย (1954, 1974, 1990, 2014) โดย สเปน สภาพจิตใจอาจดีกว่าหลังจากที่นัดแรกถล่ม คอสตาริกา 7-0 หากชนะเกมนี้ได้อีกก็จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมทันที ด้านทีมนักเตะเมืองเบียร์นัดที่แล้วทำช็อกโลกยิงนำก่อนแต่สุดท้ายพ่าย ญี่ปุ่น 1-2 พวกเขาจะตกรอบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์หากแพ้นัดนี้ และ ญี่ปุ่น ได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มจาก คอสตาริกา ถ่ายทอดสดทางทางช่อง NATION TV (22)/Truesport 2(667)

กระทิงดุใช้ 11 ขุมกำลังชุดเดิม
หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือทีมชาติสเปน คาดว่าจะไม่เปลี่ยนทีมจากนัดที่แล้ว หลังจากเปลี่ยนสำรอง 5 คน ขณะที่เหลือเวลาเล่นมากกว่า 20 นาที ขณะที่ อัลบาโร โมราตา และ ดานี การ์บาฆัล หายป่วยพร้อมเป็นตัวเลือกที่ข้างสนาม

คาดใช้แผนเก่ง 4-3-3 อูไน ซิมอน เป็นผู้รักษาประตู แดนหลัง ฆอร์ดี อัลบา, อายเมอริก ลาปอร์กต์ เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โรดรี อย่างเดิม ปล่อยให้ เปา ตอร์เรส และ เอริค การ์เซีย สำรองไปก่อน โดยมี เซซาร์ อัซปิลิกวยตา เป็นแบ๊กขวา แดนกลางขนมายกแผงจาก บาร์เซโลนา ตัวคุมเกม เซร์คิโอ บุสเกตส์ ประสานงานกับวัยรุ่น เปดรี และ กาบี แผงเกมรุกเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส, มาร์โก อเซนซิโอ และ ดานี โอลโม

เยอรมนีไร้ซาเนยังบาดเจ็บ
ฮันซี ฟลิค เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี ต้องการหลีกเลี่ยงตกรอบแรกบอลโลก 2 สมัยติดต่อกัน โดยเมื่อ 4 ปีก่อน เยอรมนี แพ้ทั้งเม็กซิโก และ เกาหลีใต้ ในรอบแรก ฟลิค ยอมรับว่าทีมจะสะดุดทำพลาดไม่ได้อีกแล้ว ต้องชนะสองเกมที่เหลือเท่านั้น สภาพทีมเวลานี้ ลีรอย ซาเน เป็นสมาชิกคนเดียวที่บาดเจ็บเข่าจนไม่ได้เล่นเกมที่แล้ว และก็ยังไม่แน่ด้วยว่าจะพร้อมกลับมาลงสนามหรือไม่

แผนที่คาด เยอรมนี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู มานูเอล นอยเออร์ แนวรับมี ธิโล เคห์เรอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิโก ชล็อตเตอร์เบ็ค, เดวิด รวม ตรงกลางเป็น โจชัว คิมมิช, ลีออน โกเรตซ์กา, อิลกาย กุนโดกัน อยู่หลัง จามาล มูเซียลา, แซร์จ นาบรี และ ไค ฮาแวร์ตซ์

เกมที่แล้ว เยอรมนี ถ่ายรูปหมู่แบบปิดปากเพื่อประท้วงที่ฟีฟ่าขู่ให้ใบเหลืองนักเตะที่สวมปลอกแขน One Love ซึ่งเป็นแคมเปญสนับสนุนความหลากหลายและสิทธิมนุษยชนลงสนาม

สถิติเจอกันมาสูสีแบบสุดๆ
สถิติเจอกันมา 25 ครั้ง สูสีเหลือประมาณ สเปน ชนะ 8 เสมอ 8 แพ้ 9 หนล่าสุดเป็นเกมเนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 สเปน ถล่มชนะ 6-0 ส่วนนับเฉพาะการเจอกันในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง เยอรมนี ดีกว่าด้วยตัวเลขชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1
เยอรมนี ชนะ 2-1 ปี 1966, เยอรมนี ชนะ 2-1 ปี 1982, เสมอกัน 1-1 ปี 1994 และ สเปน ชนะ 1-0 ปี 2010

ซามูไรใช้หลังสามลุ้นชนะรวด
อีกคู่กลุ่ม E เวลา 17.00 น. “ซามูไร บลู” ญี่ปุ่น กำลังคึกคักหลังนัดแรกสร้างเซอร์ไพร้ส์ชนะเยอรมนี 2-1 ปะทะแข้งกับ “กล้วยหอม” คอสตาริกา ที่นัดแรกโดนถล่มมาเละดังนั้นหากยังหวังเข้ารอบก็ต้องชนะเกมนี้ให้ได้ ถ่ายทอดสดทางช่อง GMM 25/Truesport 2(667)

ฮาจิเมะ โมริยาสึ เฮดโค้ชทีมนักเตะดินแดนอาทิตย์อุทัยนัดก่อนเริ่มแผนแบ๊กโฟร์ก่อนลงเอยด้วยระบบหลัง 3 ซึ่งดีขึ้นทันตาเห็น จึงคาดว่าจะใช้แผน 3-4-3 ชูอิจิ กอนดะ เฝ้าเสาต่อไปหลังเกมก่อนโชว์เซฟอุตลุด

แนวรับมี มายะ โยชิดะ, โก อิตะคูระ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ แดนกลางมี ฮิโรกิ ซากาอิ, วาตารุ เอ็นโดะ, อาโอะ ทานากะ, ยูโตะ นากาโตโมะ สำหรับเกมรุก จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะและ ทาคุมะ อาซาโนะ ฮีโร่ทำประตูชัยเกมที่แล้ว ตัวสำรอง ทาเคฟุสะ คุโบะ, คาโอรุ มิโตมะ และ ทาคูมิ มินามิโนะ ลงมาเติมเกมบุกครึ่งหลัง

หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ กุนซือคอสตาริกา ไม่มีนักเตะบาดเจ็บเพิ่ม แต่น่าจะปรับทัพพอสมควรหลังเกมก่อนสู้สเปนไม่ได้เลย เกมรุกยิงตรงกรอบไม่ได้สักครั้ง การครองบอลสู้ไม่ได้และเกมรับก็ย่ำแย่ แผนการเล่น 5-4-1 น่าจะเน้นเหนียวไว้ก่อน เกมรุกฝากความหวังไว้ที่หน้าเป้า แอนโธนี คอนเตรราส

สถิติเจอกันมา 2 ครั้งในเกมอุ่นเครื่อง ญี่ปุ่น ชนะ 3-0 เมื่อปี 2018 และอีกครั้งชนะ 3-1 เมื่อปี 2014
คู่อื่น 20.00 น. เบลเยียม – โมร็อกโก MCOT HD 30/Truesport 2(667), 23.00 น. โครเอเชีย – แคนาดา True 4U (24)/ช่อง 3 HD(33)/Truesport 2(667)