เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 20,515 ราย ชีวิตเพิ่ม 312 ราย ทั้งนี้ สถิติการเสียชีวิตหลายประเทศจะดูการเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน เพราะระบบจะมีการตรวจสอบข้อมูลตกหล่นเป็นระยะ ดังนั้น ผู้เสียชีวิต 312 ราย ไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิต แต่มีประมาณ 100 รายในเกือบ 20 จังหวัด ที่รายงานช้า โดยในจำนวนนี้มี 50 ราย พบข้อมูลวันที่เสียชีวิตก่อนเดือน ส.ค. บางรายย้อนหลังไปจนถึงเดือน เม.ย. และอีก 50 รายเสียชีวิตช่วงต้นเดือน ส.ค. เนื่องจากบางรายไม่ได้เข้า รพ. แต่มีการเสียชีวิตจึงต้องชันสูตรหาสาเหตุ ก่อนจะพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ในภายหลัง ดังนั้นแปลว่า หากไม่รวมจำนวนผู้เสียชีวิตตกหล่น ยอดการเสียชีวิตวันนี้ (18 ส.ค.) จะอยู่ที่ 200 กว่าราย

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 312 ราย พบว่าเป็นผู้ไม่เคยรับวัคซีนโควิด-19 รวม 147 ราย คิดเป็น 47% ในจำนวนนี้มี 1 ราย เป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เวรเปล รพ.แม่สอด มีโรคประจำตัวที่เป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ได้รับวัคซีนเพียง 1 เข็ม มี 33 ราย ซึ่งปกติการหวังประสิทธิภาพประสิทธิผลจากการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องฉีดครบสูตรตามกำหนดและนับหลังจากเข็มที่ 2 ครบแล้วไปอีก 14 วัน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ ส่วนอีก 132 ราย หรือ 42% ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล

“หากตัดส่วนที่รอตรวจสอบข้อมูล จะเห็นว่าทั้งหมดที่เสียชีวิตคือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย หรือฉีดยังไม่ครบ ดังนั้นเราจึงย้ำความสำคัญในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ต้องติดตามข่าว ลงทะเบียนฉีดตามสิทธิ และอย่าลังเล การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิการตัดสินใจของเจ้าตัว ควรศึกษาข้อมูลให้มั่นใจ แต่ทางวิชาการยืนยันว่าวัคซีนปลอดภัย มีประสิทธิผลสูง ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโควิดไปด้วยกัน และขอให้ประชาชนมีการป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลาแม้ไม่มีความเสี่ยง แต่ขอให้คิดเสมอว่าคนใกล้ชิดรอบๆ ตัวอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อแฝงอยู่ ต้องป้องกันตัวเองเต็มที่” นพ.เฉวตสรร กล่าว.