สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ว่า นางวิกตอเรีย นูแลนด์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการการเมือง เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จนถึงตอนนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “ยังไม่พร้อมมีความจริงใจ” ในการเจรจาร่วมกับสหรัฐและยูเครน เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 9 เดือน


นูแลนด์กล่าวต่อไปว่า ปูตินเป็นผู้ยกระดับความรุนแรงของการสู้รบไปสู่ “ความป่าเถื่อน” และ “ความอนารยธรรม” ด้วยการทำลายระบบสาธารณูปโภค เมื่อประเมินร่วมกับ “ทัศนคติที่แท้จริงของรัสเซีย” สหรัฐจึงสรุปได้ว่า รัฐบาลมอสโกไม่มีความพร้อมอย่างสิ้นเชิง


ขณะที่ น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลวอชิงตัน “ไม่มีสิทธิสั่งสอน” ชาวโลก เนื่องจากสหรัฐและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ทำลายเครือข่ายพลังงานในเซอร์เบียมากกว่า 70% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ที่นาโตโจมตียูโกสลาเวีย เมื่อปี 2542 และนาโตยอมรับเรื่องดังกล่าวด้วย


ทั้งนี้ ทำเนียบเครมลินเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ปูตินพร้อมเจรจากับทุกฝ่ายในประเด็นเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครนมาตลอด “เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซีย” อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐยังคงยืนกรานปฏิเสธยอมรับสถานะ “ดินแดนใหม่” ของรัสเซีย ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อ “ความเป็นไปได้ของการประนีประนอม” และรัฐบาลมอสโก ไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของรัฐบาลวอชิงตัน ว่า การเจรจาจะสามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อรัสเซียถอนทหารทั้งหมดออกจากยูเครน เนื่องจากปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าต่อไป


ท่าทีของทำเนียบเครมลิน เป็นการตอบโต้ที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ยังคงมีความพร้อมพบปะแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน “หากผู้นำรัสเซียต้องการยุติการสู้รบ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่มีแนวโน้ม”.

เครดิตภาพ : REUTERS