สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการอพยพพลเมืองสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน ว่าตราบใดที่ยังไม่เสร็จสิ้น ทหารอเมริกันจะยังคงประจำการอยู่ต่อไป เพื่อรักษาความปลอดภัยจนกว่า "ชาวอเมริกันคนสุดท้ายจะเดินทางออกไปได้" ซึ่งเป็นสัญญาณในเบื้องต้น ว่าทหารอเมริกันอาจยังคงประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน แม้ผ่านพ้นวันที่ 31 ส.ค.นี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นวันที่ไบเดนกำหนดการยุติภารกิจทางทหารของสหรัฐในประเทศแห่งนี้ "อย่างเป็นทางการ"
อย่างไรก็ตาม ภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในกรุงคาบูล นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันยกพลเข้ายึดครองได้สำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ไบเดนยังคงเผชิญกับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากแทบทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ในพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับการบริหารสถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการถอนทหาร และผู้นำสหรัฐปกป้องการตัดสินใจของตัวเองอีกครั้ง ว่าเพื่อยุติการมีส่วนร่วมของสหรัฐซึ่งยาวนาน 20 ปี เรื่องแบบนี้ "ยากที่จะไม่เกิดขึ้น"
ขณะที่ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า แม้กลุ่มตาลีบันรับรองความปลอดภัยให้แก่รัฐบาลวอชิงตัน ในการอพยพประชาชนทั้งที่เป็นชาวอเมริกัน และชาวอัฟกันอีกจำนวนหนึ่ง แต่จำนวนผู้ที่เดินทางออกมาได้ "ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ" 
ปัจจุบัน มีทหารอเมริกันประมาณ 4,500 นายอยู่ในกรุงคาบูล จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานการปะทะโดยตรงกับกลุ่มตาลีบัน และผู้บังคับบัญชาภาคสนามยังพร้อมประสานงานกับอีกฝ่ายตลอดเวลา แต่ พล.อ.ออสตินยอมรับว่า สถานการณ์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล ยังคงโกลาหล แม้ฝูงชนลดขนาดลงมาก และเจ้าหน้าที่ต้องยิงปืนเตือนขึ้นฟ้าเป็นระยะ เพื่อรักษาความเป็นระเบียบ
ด้าน พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองด้านใดที่ระบุว่า รัฐบาลอัฟกานิสถาน "ล่มสลายภายในเวลาเพียง 11 วัน" โดยถึงที่สุดแล้วมีการระบุเพียงว่า "ให้ทุกฝ่ายพร้อมรับมือผลกระทบทุกรูปแบบ".

เครดิตภาพ : AP