เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาฝั่งสภาผู้แทนราษฎร เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย นำโดยนายพิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนวิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ผู้ป่วยและญาติ ตัวแทนภาคธุรกิจแบบอุตสาหกรรม รวมตัวจัดกิจกรรมเรียกร้องให้ ส.ส. รับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ในวาระที่ 2 ที่เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงเช้าวันเดียวกัน

นายพิพัฒน์ กล่าวยืนยันว่า ต้องการสนับสนุนให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมได้ทั้งแง่คุณภาพ การเข้าถึง มองจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ขณะเดียวกันในหลายประเทศเริ่มมีการปลดล็อกกันในด้านนันทนาการแล้ว แต่ในประเทศไทยขอให้เน้นด้านทางการแพทย์ก่อน และคุมให้เยาวชนใช้อย่างถูกวิธี ทั้งนี้ การใช้ในทางสันทนาการมันมีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว “อย่าไปมองโลกสวยเลยว่าไม่มี” ก่อนตั้งคำถาม หากมีกัญชา กับยาบ้า จะเลือกอะไร ยาบ้าที่ว่ามีการคุมเข้มกันยังระบาดหนัก มีข่าวฆ่ากันตายรายวัน

ขณะเดียวกัน หากร่างฉบับนี้ผ่านสภา ประเด็นกัญชาจะเป็นเรื่องทั่วไป ซึ่งจะไม่เป็นประเด็นในการที่พรรคการเมืองจะเอามาใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว แต่หากไม่ผ่าน ตนมองว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า หลายพรรคการเมืองจะต้องเอากัญชามาหาเสียงอย่างแน่นอน “พรรคที่คัดค้านว่าไม่ดี ถึงเวลาหนึ่งหากกลับมาสนับสนุนมันจะเป็นตัวตลก จะไม่มีใครเลือกพรรคคุณแล้ว” อย่างไรก็ตาม หากร่างฉบับนี้ไม่ผ่านสภา ตนจะเดินหน้าต่อ เพราะการปลดล็อกกัญชาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลา ที่สำคัญคืออย่าไปปิดกั้นข้อมูลกับประชาชน อย่าไปยัดเยียดแต่ว่ากัญชาคือยาเสพติด อยากให้ทำความเข้าใจกันใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรถของ ส.ส. ขับเข้าสภา กลุ่มมวลชนที่มาร่วมทำกิจกรรม ได้โบกธง ตะโกนบอกว่า “ขอให้ร่างฉบับนี้ผ่านสภาด้วย” เป็นที่น่าสังเกตว่า มีกลุ่ม ส.ส. พรรครัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยหลายคนลดกระจกลง ทักทายกับกลุ่มมวลชน เช่น นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินออกมาทักทายกลุ่มมวลชน พร้อมรับปากจะผลักดันอย่างเต็มที่ด้วย