การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ใกล้จบ ซึ่งแฟนกีฬาชาวไทยลุ้นกันหนักกับการถ่ายทอดสด ที่มาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด จบจากศึกเวิลด์คัพ เตรียมความดันพุ่งกันต่อลุ้นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิอิเล็กทริคคัพ 2022” ที่มีทีมชาติไทยลงแข่ง ซึ่งถึงตอนนี้ ราว 5 วันจะเริ่มฟาดแข้งแล้ว ยังไม่มีเจ้าใดได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด

ศึกชิงแชมป์อาเซียน รอบแรก ไทย ทีมแชมป์เก่า อยู่กลุ่ม A โปรแกรม วันที่ 20 ธ.ค.65 พบ บรูไน (เยือน เตะที่มาเลเซีย), 26 ธ.ค.65 พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า), 29 ธ.ค.65 พบ อินโดนีเซีย (เยือน), 2 ม.ค.66 พบ กัมพูชา(เหย้า)

“ก้องศักด” รอเอกชนลุยก่อน
ในเรื่องการถ่ายทอดสดในไทย หลังจาก สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี หมดสัญญาไป ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าไหนในไทยจะซื้อ แม้การถ่ายทอดสดหนล่าสุดทางช่อง 7 จะทำเรตติ้งถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็อ้อนผ่านสื่อ ขอให้ผู้ใหญ่ใจดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวสอบถาม ดร.ก้องศักด ถึงโอกาสในการยื่นมือเข้าซื้อลิขสิทธิ์ ผ่านทาง “ทีสปอร์ต 7” ซึ่ง ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้เอกชนเจรจาก่อน รวมทั้งรอนโยบายภาครัฐ ถึงจะดำเนินการได้

“เอเอฟเอฟ” ยันไทยยังไม่มี
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยกับ “กีฬาเดลินิวส์” ว่า แม้ เอเอฟเอฟ (สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน) ไม่ได้ขีดเส้นมา ว่าสามารถยื่นซื้อลิขสิทธิ์ได้ถึงเมื่อไหร่ แต่กระชั้นชิดมากแล้ว เอเอฟเอฟ ก็เพิ่งส่งหนังสือแจ้งมายัง สมาคมลูกหนังไทย ว่ายังไม่มีเจ้าใดในไทยที่ซื้อลิขสิทธิ์ ด้วยระยะเวลาที่จวนเข้าไปทุกที หากจะมีใครยื่นซื้อ ควรต้องเริ่มดำเนินการวันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค. เพราะเมื่อยื่นไปแล้วยังมีกระบวนการต่างๆ อีกมากมาย เช่นการตรวจสัญญาจากฝ่ายกฎหมาย

“ทราบมาว่า มีหลายช่องสนใจ แต่ปัญหาอยู่ที่ ราคาสูง เมื่อซื้อแล้ว จะทำการตลาดอย่างไร เพราะการจะขายโฆษณานั้น ผู้สนับสนุนก็เพิ่งเอาเงินไปลงกับฟุตบอลโลก ตรงนี้คือโจทย์ใหญ่ หากซื้อมาจะหาผู้สนับสนุนไหวไหม”

“ส่วนตัวคิดว่า โอกาสเป็นไปได้หมด คนไทยได้ดู หรือไม่ได้ดู ตอนนี้กระแสยังเงียบๆ เพราะมีบอลโลกอยู่ แต่พอบอลโลกจบวันที่ 18 ธ.ค. อีก 2 วันทีมชาติไทยจะแข่งแล้ว จะต้องมีกระแสหนักหากจะไม่มีการถ่ายทอดสดศึกอาเซียน”

มีสิทธิวืด-ผลจากบอลโลก
เมื่อถามถึงโอกาสที่คนไทยจะได้ดู หรือไม่ได้ดูถ่ายทอดสดการแข่งของทีมฟุตบอลตัวแทนประเทศไทย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน แหล่งข่าวระบุว่า “ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นไปได้ทั้งหมด” ด้วยความค่าลิขสิทธิ์สูง โดยปีนี้ บริษัท สปอร์ตไฟว์ รับหน้าที่จาก เอเอฟเอฟ ดูแล และอีกปัจจัยสำคัญคือ เป็นรายการที่แข่งต่อเนื่องจากฟุตบอลโลก 2022 ที่เป็นอีเวนต์ใหญ่

ไม่ถึง 100 ล้านแต่ก็ไม่เบา
เมื่อถามว่าราคาค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 100 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่ถึง อยู่ที่ราว 50 ล้านขึ้นไป แต่ไม่ถึง 100 ล้าน ส่วนคำถามที่ว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สามารถเป็นผู้ไปซื้อลิขสิทธิ์ได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถทำได้ เพราะคนขายก็ต้องดูว่า เมื่อขายไปแล้ว จะไปออกช่องไหน สมาคมฯ ไม่มีช่องตัวเอง ขณะเดียวกันลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั้งหมดเป็นของ เอเอฟเอฟ ส่วน สมาคมบอลไทย ไม่มีสิทธิใดๆ แม้มีทีมชาติไทยแข่งก็ตาม.