เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายชูวิทย์ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หัวมังกุ ท้ายมังกร หากผมไม่ยื่นอัยการสูงสุด จะมีหรือที่ตำรวจกวักมือเรียกอัยการมาทำคดี “ตู้ห่าว” เป็น “คดีอาชญากรรมสำคัญ”?เพราะอย่างไรก็ต้องให้ ผบช.น. ตั้งแท่นส่งเรื่องมาให้อัยการสูงสุดแบบจำใจ เนื่องจากผมไปร้องดักทางเอาไว้

อัยการสูงสุดท่านเป็นสุภาพสตรี คนดีศรีสังคม  ยังดีกว่าบางคนที่เป็นชายทั้งแท่ง แต่ทำตัวเหมือนใส่….มา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พรุ่งนี้ บ่าย 2 จัดให้อีกดอก คอยดูแล้วกันว่า ใครเล่นตลกลิเกเอาไว้หน้าด้านๆ

มันถึงมั่วแบบนี้ เขาเรียกกันว่า “หัวมงกุ ท้ายมังกร”

นอกจากนี้นายชูวิทย์ ยังได้โพสต์คอมเมนต์กับชาวโลกออนไลน์ โดยระบุว่า หาก ผบช.น. บอกว่า ที่จับ “รปภ.” เขาไม่ใช่ยาม แต่เป็น “ผู้ดูแลสถานที่”ถามสั้นๆ ว่า “ได้ไปสอบถามบริษัท รปภ. หรือยัง?

ส่วนที่รองโฆษกฯ ออกมาเจื้อยแจ้ว ไม่ใช่เพราะชูวิทย์ แต่เป็นเพราะ ผบช.น. ส่งเรื่องมาวันที่ 13 ให้อัยการ ก็ต้องถามท่านรองโฆษกอัยการกลับไปว่า “หนังสือ บชน. มาหลังจากที่ผมไปยื่นเรื่องกับอัยการสูงสุดใช่ไหม?” แล้วท่านโทรมาบอกกับผมเองเมื่อวันพุธที่ผมเพิ่งแถลงข่าวเสร็จว่า

“อัยการสูงสุดรับเป็นคดีสำคัญแล้ว เพราะชูวิทย์”เอาว่า “ไม่สำคัญว่าเป็นเพราะใคร”แต่เอาเวลาไปทำงานดีกว่า นับถอยหลังแล้ว แค่นัดแรกก็ไปอังคารหน้า อย่าลืมว่าเหลืออีก 2 ฝาก

หมดเวลาแล้วนะครับ ทำงานเร็วหน่อยดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์