วัดชากลูกหญ้า” คือชุมชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เมื่อก่อนหมู่บ้านแห่งนี้มีจำนวนขยะจำนวนมาก ประมาณ 8.2 ตันต่อวัน และยังไม่รู้จักการคัดแยกขยะ จนกระทั้งเมื่อ 3 ปีก่อน ชาวบ้านเริ่มมองเห็นปัญหาและช่วยกันคิดว่าจะนำขยะที่มีอยู่มาทำประโยชน์ ด้วยความมุ่งมั่นต้องการแก้ปัญหาขยะในพื้นที่ เทศบาลจึงส่งชาวบ้านไปศึกษาดูงานหลายแห่ง จนในที่สุดเกิดแนวคิด “โครงการธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล” โดยชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของโครงการ จะต้องนำขยะมาฝากตามที่กำหนด ส่วนเงินที่ได้จากการนำขยะมาฝากไว้ จะนำไปดูแลเรื่องฌาปณกิจ และจัดสรรสวัสดิการต่างๆ เช่น ทุนการศึกษา ค่ารักษาพยาบาล

หลังจาก โครงการธนาคารคัดแยกขยะฯ ดำเนินการมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ทางบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้นำ “YOU เทิร์น”แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นระบบจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร ตั้งแต่การรวบรวมและคัดแยกขยะ การขนส่งขยะพลาสติกไปยังโรงงาน ENVICCO ของ GC ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลระดับ Food Grade มาตรฐานยุโรปแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และแปรรูปจนได้กลับมาเป็นสินค้าอัพไซคลิง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าอีกครั้ง จนในที่สุดเกิดเป็น ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 260 คน ศูนย์ฯ นี้จัดตั้งขึ้นเพื่อรับซื้อและขายขยะพลาสติกอย่างเป็นระบบโดยสามารถเก็บขยะได้มากถึง 2 ตัน/เดือน นอกจากนี้ GC ยังเข้ามาสนับสนุน การทำโรงเรือน การเทพื้น มอบเครื่องอัดก้อนขวดพลาสติก ลิพต์มือ พร้อมกับหาตลาด และโรงงานเอ็นวิคโค (ENVICCO) เข้ามาให้ความรู้ ตั้งแต่การคัดแยกขยะที่ถูกต้อง แยกประเภทขวด สี และเครื่องมือในการขนย้าย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก

ปัจจุบันต่อปัญหาขยะของชุมชนวัดชากลูกหญ้า จากการที่ครัวเรือนได้คัดแยกขยะส่งไปที่ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ทำให้ปริมาณขยะในชุมชนลดน้อยลง และยังสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านจนกลายเป็นอาชีพถาวร

ชุมชนวัดชากลูกหญ้า กลายเป็นหมู่บ้านตัวอย่างที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและเป็นต้นแบบในเรื่องการจัดการขยะ จนได้รับประกาศนียบัตรจากโครงการ LESS ซึ่งขยะพลาสติกที่ชุมชนนี้เก็บได้ เมื่อแปลงเป็นตัวเลขแล้ว เทียบกับการปลูกต้นไม้ได้มากถึง 20,949 ต้น และช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนได้มากถึง 188.538 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ชุมชนวัดชากลูกหญ้าและ GC จึงเป็นหนึ่งชุมชนที่ช่วยกู้วิกฤตโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้

เช่นเดียวกับที่ ชุมชนตำบลลำเหย.นครปฐม ทุกวันนี้ แนวโน้มปัญหาขยะถือว่ามีทิศทางที่ดี ทั้ง 15 ชุมชนสามารถลดขยะในพื้นที่ของตนเองลงได้ ขณะเดียวกัน ยังมีทั้งอาชีพ รายได้ จากการนำขยะไปส่งที่“ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ตำบลลำเหยโดยสามารถเก็บขยะได้มากถึง 3 ตัน/เดือนโดยมีการทำงานอย่างเป็นระบบ เนื่องจาก GC ได้นำระบบ YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ ตั้งแต่การจัดเก็บบันทึก การจัดทำบัญชี จัดทำ Stock จนถึงการจัดการด้านการขายให้แก่โรงงาน ENVICCO เพื่อให้ชุมชนสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย สำหรับรายได้จากการนำขยะไปขายให้กับโรงงาน จะนำไปใช้ในการฌาปณกิจของสมาชิกศูนย์ฯ และพัฒนาพื้นที่และสวัสดิการต่างๆของชุมชน นอกจากนี้ GC ได้สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องอัดก้อนขยะ เครื่องมือในการขนย้าย รวมทั้งสนับสนุน Smart ซาเล้ง หรือ EV ซาเล้ง สำหรับใช้ในการขนส่งขยะในชุมชน พร้อมทั้งการเชื่อมโยงกับระบบการบริหารจัดการขยะของสามพรานโมเดล เพื่อให้ชุมชนบริหารจัดการขยะพลาสติกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ตำบลลำเหย ถือเป็นต้นแบบบริหารจัดการขยะพลาสติกแห่งแรกในจังหวัดนครปฐม สามารถรวบรวมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้มากถึง 60 ตัน/ปี และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 61,860 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่ได้มากถึง 687 ต้น

ดร.ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กรGC เล่าให้ฟังว่า GC ตระหนักถึงความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามหลัก ESG โดยมีมุ่งเน้นการบริหารจัดการขยะชุมชนอย่างครบวงจร หรือ Community Waste Model เพื่อสร้างเครือข่ายการบริหารจัดการขยะกับทุกภาคส่วน และเชื่อมโยงขยะพลาสติกหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

อย่างไรก็ตาม ถ้าต้นแบบจัดการขยะทั้ง 2 แห่งประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนอื่นได้ทำตามต่อไป นับเป็นการขยายหมุดหมายในวงกว้าง เท่ากับสิ่งดีๆ ที่ทำการันตีด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน สามารถช่วยกู้วิกฤตโลกร้อนและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน