เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่หมู่บ้านมโนมัย หมู่ 2 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี มีประชาชน 50-60 คน รวมตัวกันบริเวณด้านหน้าร้านทอง “เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง” ขายทองออนไลน์ ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวปลูกติดกัน 5 ห้อง ภายในตกแต่งหรูหราลักษณะเหมือนร้านจำหน่ายทองคำ หรือเพชรพลอย แต่ประตูกระจกด้านหน้าปิดล็อกไม่มีผู้ใดอยู่เฝ้าร้านแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มคนดังกล่าว ต่างพยามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ทราบเพียงว่า มากันจากจังหวัดอื่นๆ เช่น สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ เบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นกลุ่มผู้เสียหาย ที่ทางร้านทอง นัดให้มาเจรจาผลประโยชน์จากการติดต่อซื้อขายทองคำ และออมทองคำ ระหว่างกันผ่านเฟซบุ๊ก แล้วทางร้านขาดการติดต่อกับลูกค้าไปหลายวันแล้ว แต่เมื่อมาถึงตามที่นัดหมายกันไว้ กลับพบแต่ความว่างเปล่า ร้านปิด ติดต่อไม่ได้ จึงตกลงกันว่าจะเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม ช่วยเหลือ

ต่อมาที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อแจ้งเอาผิด เจ้าของร้านทองดังกล่าว หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนและเป็นตัวแทนหาผู้มาร่วมลงทุนออมทองผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเชิดเงินหลบหนีไปรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท โดย น.ส.นุ้ย (นามสมมุติ) หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เห็นเพจเฟซบุ๊ก “เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์” และเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์โฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนออมทองอ้างได้ค่าตอบแทนสูง เช่น ลงทุนระยะสั้น 23,000 บาท ครบ 1 เดือน จะได้รับทองคำน้ำหนัก 1 บาท นอกจากนี้ ยังชักชวนให้เป็นตัวแทนหาสมาชิกมาร่วมลงทุน โดยจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าตอบแทน 300 บาท ต่อการลงทุนทองคำน้ำหนัก 1 บาท ช่วงแรกเห็นว่า ได้รับทองคำ หรือ ค่าตอบแทนจริง

น.ส.นุ้ย เผยอีกว่า ประกอบกับเห็นว่ามีที่ตั้งร้านทอง หรือ หน้าร้าน ชัดเจน อยู่ใน อ.เมือง จ.สระบุรี รวมถึงเคยมีการเชิญ “อิงฟ้า วราหะ” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 และผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ มาร่วมโปรโมตร้าน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ จึงมีเหยื่อหลงเชื่อไปชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนรวมกว่า 700 ล้านบาท กระทั่งต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เริ่มมีปัญหาไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนและส่งมอบทองคำให้กับผู้ลงทุน จึงพยายามสอบถามแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนจะนัดหมายคืนเงินให้ภายในวันนี้ แต่สุดท้ายกลับเงียบหายไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบฯ

น.ส.โบว์ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เป็นตัวแทนจัดหาสมาชิก มีลูกข่าย 3-4 ร้อยราย ยอดเงินลงทุนรวมกว่า 55 ล้านบาท การกระทำของเจ้าของร้านทองดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จนต้องรวมตัวกันมาแจ้งความพร้อมกับผู้เสียหายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงเจ้าของร้านทอง หรือ เจ้าของเพจให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป