เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินกองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ได้นำร่างจ.อ.จักรพงศ์ พูลผล และพลทหารอัครเดช โพธิ์บัติ กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ประสบเหตุอับปางที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากกองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มายังท่าอากาศยานกองบิน7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีพลเรือตรีพิจิตต  ศรีรุ่งเรือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมด้วยพลตรีทวนทอง ทองสุภา ผู้บัญชา การมณฑลทหารบกที่ 45 และครอบครัว ญาติผู้สูญเสียร่วมรับผู้วายชนม์เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาโดยมีทหารกองเกียรติยศรับอย่างสมเกียรติ

ทั้งนี้ ทั้ง 2 นายโดย จ.อ.จักรพงศ์ พูลผล นำไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ณ วัดคลองครามประชาสรรค์ ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก และ พลทหารอัครเดช โพธิ์บัติ นำไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ณ วัดสุธาฤดีวราราม ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายบรรยากาศที่วัดสุธาฤดีวราราม เมื่อกองเกียรติยศได้เคลื่อนโลงศพนำร่างพลทหารอัครเดช มาถึงเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยนางอุบล มีลาภ อายุ 86 ปี ยายที่เลี้ยงพลทหารอัครเดชมาตั้งแต่เล็กๆเมื่อเห็นถึงกับปล่อยโฮร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจมาก เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่าหลานชายเสียชีวิตจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พร้อมตะโกนต่อว่านายชิด มีลาภ อายุ 88 ปี สามีและตาของพลทหารอัครเดชว่าโกหกเรื่องหลานชายติดโควิด ครอบครัวจึงพากันปลอบใจ

นายชิด กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องหลานชายประสบเหตุเรืออัปปางทุกคนในครอบครัวมีความเห็นและได้บอกยายอุบล ว่า หลานชายป่วยติดโควิดมาตลอด เพราะเป็นห่วงสุขภาพ ของยาย จนกระทั่งเมื่อคืนนี้พึ่งบอกหลานชายเสียชีวิตแล้ว และยายมาทราบที่วัดว่าเสียชีวิตเพราะเรืออัปปาง ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจ แต่ก็ภาคภูมิใจถือว่าหลานชายได้ทำดีที่สุดแล้วได้ทำเพื่อชาติ

ด้านนางจรรยา มีลาภ  อายุ 48 ปี มารดาพลทหาร อัครเดช กล่าวว่า มีลูก 4 คน พลทหาร อัครเดช เป็นลูกชายคนโต ซึ่งจะปลดประจำการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ที่ผ่านมาในชีวิตรับใช้ชาติจะส่งรูปมาให้ดูว่า กินอยู่สบายดี จะเหนื่อยบ้างเวลาฝึก  เมื่อทราบข่าวว่าเรืออับปางและมีรายชื่อบุตรชายเป็นผู้สูญหาย ได้แต่ภาวนาให้ปลอดภัย แต่สุดท้ายพบว่าเสียชีวิตมีความเสียใจมากอีก 1 เดือนเศษจะปลดประจำการแล้วถือว่าบุตรชายได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว