เมื่อวันที่ 21 ส.ค. กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ความเครียดและความกังวลของคนไทยต่อสถานการณ์ COVID-19 ณ ปัจจุบัน” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,194 คนพบว่า จากการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลักหมื่นในแต่ละวันทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 เครียดและกังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 36.1 เครียดและกังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
โดยเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่เครียดและกังวลมากที่สุดคือ กลัวตนเองและครอบครัวเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ร้อยละ 72.7 รองลงมาคือ การทำมาหากินลำบาก รายได้ลด ถูกเลิกจ้าง หนี้สินเพิ่ม ร้อยละ 69.6 และ เชื้อโรคแพร่กระจายยอดผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มสูงขึ้น ร้อยละ 48.9
ทั้งนี้กิจกรรมคลายเครียดช่วง COVID-19 ที่นิยมทำมากที่สุด คือ ทำงานบ้าน ร้อยละ 50.0 รองลงมาคือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ร้อยละ 49.6 และปลูกต้นไม้ ปลูกพืชสวนครัว ร้อยละ 44.2 สำหรับเรื่องที่ประชาชนห่วงและกังวลมากที่สุด หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในไทยยังเพิ่มขึ้นยืดเยื้อต่อไป คือ คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอาจแย่ลง มีโจร ขโมย และอาชญากรรมมากขึ้น ร้อยละ 46.2 รองลงมาคือ ระบบสาธารณสุข อาจจะรับมือไม่ไหว ร้อยละ 25.9 และการฟื้นฟูกิจการต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว การนำเข้า ส่งออก อาจทำได้ช้าลง ร้อยละ 12.9.