จากกรณีที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาโพสต์ถึงประเด็นร้อนอดีตรองนายกรัฐมนตรีฉาว ชื่อย่อ ย. แอบคบชู้กับหญิงสาวที่มีสามีแล้ว พร้อมกับรูปภาพสยิวหลุดว่อนโซเชียล จนกลายเป็นประเด็นดราม่าทางสังคม โดยทางทนายตั้มออกมาใบ้ชื่อย่อ อดีตรองนายกฯ ที่ตกเป็นข่าวโดยระบุว่า เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และปัจจุบันลาออกจากพรรคไปเมื่อปี 2561 และเคยมีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น ทำให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย สมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยนายยงยุทธ ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่บุคคลที่ทนายตั้มกล่าวถึงอย่างแน่นอน 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เกิดจากเมื่อระหว่างเดือนธันวาคม 2564-พฤศจิกายน 2565 อดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. ที่คบหากับ นางสาว ธ. (อายุ25 ปี) โดยมีพ่อและแม่ของนางสาว ธ. รับรู้ว่าอดีตรองนายกฯ ย. คบหากับนางสาว ธ. ต่อมาทาง อดีตรองนายกฯ ย. เกิดหลงรักอยากให้ฝ่ายหญิงมาดูแล จึงได้มีนำทรัพย์สินหรือสินสอดเพื่อมาสู่ขอ 1.เงินสดจำนวน 1 ล้านบาท 2. แหวนเพชรจำนวน 1 วงมูลค่า 5 แสนบาท มาให้กับฝ่ายหญิง 3.ทองคำ จำนวน 60 บาท รวมมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท 4.เงินสดซื้อรถยนต์จำนวน 3 ล้านบาท 5.เงินสดซื้อบ้านอีกจำนวน 3 ล้านบาท 6. เงินที่โอนเข้าบัญชีฝ่ายหญิงอีก 319,000 บาท 7. เงินสดที่ฝ่ายหญิงเอาไปอีกจำนวน 10 ล้านบาท รวม 7 รายการ เป็นจำนวนเงินมูลค่า 19,419,000 บาท 

ต่อมาอดีตรองนายก ย. ทราบว่านางสาว ธ. มีสามีและจดทะเบียนสมรสกับนาย ก. ตั้งแต่ปี 2560 จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 65 เพื่อเอาผิดผู้ต้องหาที่ 1-4 ที่มี นางสาว ธ. รวมถึง พ่อ-แม่และสามีของ นางสาว ธ. ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เนื่องจากทราบอยู่แล้วว่า นางสาว ธ.จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับสามี แต่ได้ปิดบังอดีตรองนายกฯ ย. จึงถือว่าได้ร่วมกันหลอกลวง ทางพนักงานสอบสวนจึงรับเป็นคดีอาญาที่ 546/2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงฯ และมีการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเรียกกลุ่มผู้ต้องหา 1-4 มาสอบปากคำ กระทั่งศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-3 ในข้อหาดังกล่าว และผู้ต้องหาที่ 4 คือพ่อของ นางสาว ธ. ที่ยังหลบหนี โดยล่าสุด 10 ม.ค.66 พนักงานสอบสวนได้นัดและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ส่งต่ออัยการตลิ่งชันพร้อมสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าฝ่ายผู้เสียหายคืออดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. ที่ตกเป็นข่าวฉาว โดยที่ฝ่ายหญิงหรือกลุ่มผู้ต้องหา ตั้งใจที่จะหลอก ซึ่งภายหลังเกิดเรื่องจึงเดินทางไปปรึกษากับทนายความชื่อดังเพื่อให้ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจากฝ่ายผู้เสียหาย หรืออดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. เป็นผู้มีตำแหน่งทางการเมืองและเป็นที่น่าเชื่อถือในสังคม แม้จะพ้นจากตำแหน่งหน้าที่การเมืองไปแล้วก็ตามด้วยวัยเกษียณอายุ แต่ก็ยังเป็นบุคคลที่สังคมให้ความสนใจอีกด้วย