จากกรณีไกด์จีนแฉลูกทัวร์ เปิดเผยประเด็นข่าวใหม่ “ตำรวจพัทยา เรียกเงินนักท่องเที่ยว คดี จับบุหรี่ไฟฟ้า” ที่มีการส่งต่อในกลุ่มไกด์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเพิ่งเกิดเมื่อไมี่กี่วันก่อน โดยข้อมูลเบื้องต้น ตำรวจพัทยาตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้มีการเรียกเงินจำนวน 6 หมื่นบาท แต่มีการต่อรองจนเหลือ 3 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ด.ต.นพกฤษฎิ์ อดีต ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา ได้เดินทางไปรายงานตัวกับ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดยได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์สั้นๆ ว่า ตามที่ถูกกล่าวหาว่า รีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และไม่มีการรับเงินจากนักท่องเที่ยวตามที่ถูกกล่าวหา โดยพร้อมให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาตั้งใจทำงานมาโดยตลอด

ต่อมา นางวิจิตรา จำนันจ์สิริ ผอ.สำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 2 พร้อมคณะ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ในขณะที่ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ เพิ่งจะรับตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ในวันนี้เป็นวันแรก

โดยนางวิจิตรา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้ลงพื้นที่ มาดูแนวทางการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีน กล่าวหาว่า มีตำรวจเรียกเงินค่าปรับบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านรายการ โหนกระแส โดยในเบื้องต้นจะรับฟังว่า ตำรวจมีแนวทางการทำงานให้รูปแบบใด และจะแนะนำเพิ่มเติมในที่สิ่งตำรวจจะ ต้องทำในการสอบสวน เพื่อให้ในเรื่องนี้มีความกระจ่างมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะภาพวงจรปิด วันเวลาเกิดเหตุและข้อมูลด้านต่างๆ โดยจากนี้จะนำเรื่องทั้งหมด ส่งให้เลขาธิการ ป.ป.ท. เพื่อรายงานนายกรัฐมนตรี ต่อไป

พ.ต.อ.ฐนพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ด.ต. นายนี้ มีคำสั่งให้ไปช่วยงาน ศปก. แล้ว โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ส่วนแนวทางการสอบข้อเท็จจริง ทาง ภ.จว.ชลบุรี ได้ตั้งชุดคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนกรณี ป.ป.ท. ซึ่งลงพื้นที่มาติดตามการทำงานของตำรวจ ในส่วนนี้ ทางตำรวจก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย