เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ทีมข่าว เดลินิวส์ออนไลน์ ลงพื้นที่สำรวจสภาพความหนาแน่นของฝุ่น PM 2.5 หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ อาทิ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ด้านหน้าสำนักงานเขตจตุจักร บริเวณเลียบถนนนิคมมักกะสัน ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในช่วงเช้าขณะเดินทางออกไปทำงาน อีกทั้งยังพบว่าทิวทัศน์โดยรอบของตึกสูงหรืออาคารสำนักงานต่างๆ ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละอองปริมาณมาก

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร มีการสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) ตรวจวัดได้ 57-97 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 72.5 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 67 พื้นที่

ทั้งนี้ ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 71-121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 70 พื้นที่ อาทิ 1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 121 มคก./ลบ.ม. 2.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 113 มคก./ลบ.ม. 3.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ : มีค่าเท่ากับ 112 มคก./ลบ.ม. เป็นต้น