สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีกาเบรียล บอริก ผู้นำชิลี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในภูมิภาคหลายแห่งทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันศุกร์ ซึ่งกำลังเผชิญกับไฟป่ารุนแรง ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่มากกว่า 35,000 เอเคอร์ บ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่า 100 หลัง และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่เทศบาลซันตาฮัวนา อยู่ทางตอนกลางของประเทศ


ขณะที่สำนักงานป้องกันและตอบสนองต่อภัยพิบัติแห่งชาติของชิลีรายงาน จำนวนไฟป่า ณ เวลานี้ มีจำนวนสะสมอย่างน้อย 204 จุด จากจำนวนดังกล่าวอย่างน้อย 56 จุด ยังไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังนักผจญเพลิงมากกว่า 2,300 คน และเครื่องบินดับเพลิงอย่างน้อย 75 ลำ กระจายกำลังเร่งควบคุมสถานการณ์


ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของชิลี พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ จะยังคงมีอุณหภูมิสูงอยู่ที่ระดับ 40 องศาเซลเซียส เพิ่มความกังวลให้กับหลายฝ่ายว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ไฟป่าครั้งนี้ อาจมีความรุนแรงไม่ต่างจากเมื่อปี 2560 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และบ้านเรือนมากกว่า 1,500 แห่ง ได้รับความเสียหาย.

เครดิตภาพ : REUTERS