เมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งข่าวที่สังคมไทยต่างร่วมส่งกำลังใจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 7 เดือน สัญชาติเมียนมา กลับพลัดตกลงไปในหลุมเจาะบ่อบาดาลกลางไร่มันสำปะหลัง ที่ อ.พบพระ จ.ตาก ที่มีความลึกกว่า 40 เมตร โดยตัวเด็กติดอยู่ในช่วงความลึกประมาณ 15 เมตร แต่สุดท้าย หลังจากผ่านเวลาไปแล้ว 19 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวหนูน้อยขึ้นมาได้สำเร็จ โดยเบื้องต้นอาการปลอดภัย ก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป
-เผยภาพวินาทีชีวิตเจ้าหน้าที่อุ้มหนูน้อยวัย1ขวบ7เดือน ขึ้นจากหลุมปลอดภัย
แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 38 ปีที่แล้ว ก็ต้องบอกว่าเหตุการณ์ “เด็กตกท่อ” นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นโศกนาฏกรรมสุดหดหู่ ที่หลายๆ คนคงไม่มีวันลืม..
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 หนึ่งในข่าวที่ขึ้นหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับนั้น คือเรื่องของ “ด.ญ.สร้อยเพชร บุญน้อย” ที่เรื่องเกิดในไซต์งานก่อสร้างอาคาร โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นวันหยุดที่พ่อต้องออกไปรับจ้างที่อื่น แม่ไปตลาด จึงฝากหนูน้อยวัย 16 เดือน ไว้กับเพื่อนบ้านช่วยดูแลไปก่อน
จู่ๆ เด็กหญิงวัย 16 เดือน ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลายคนออกตามหา จนได้ยินเสียงร้องออกมาจากรูเสาเข็ม… รูของเสาเข็มที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร แต่มีรูตรงกลางกว้างแค่ 20 เซนติเมตร ยาวท่อนละ 12 เมตร ฝังลงไป 2 ท่อนแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งส่องไฟ ทั้งหย่อนไฟฉายลงไป เห็นมือเด็กไหวๆ ความหวังที่จะช่วยชีวิตจึงมีอยู่ เบื้องต้น ทีมช่วยเหลือหย่อนสายออกซิเจนลงหลุมให้มีอากาศหายใจ โดยมีพยาบาลคอยดูแล
“เพชรจับเชือกไว้ลูก…” นางสมภารแม่ของเด็กถูกนำมาที่ปากหลุมด้วย เพื่อให้ส่งเสียงถึงลูก แต่ความไร้เดียงสา ทำให้หนูน้อยวัยเพียง 16 เดือน ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนเป็นแม่กำลังจะสื่อ.. คนเป็นแม่ถึงกับทรุดลงอย่างคนหมดแรง
ทีมงานช่วยชีวิตปรึกษากันที่จะใช้วิธีสร้างอุปกรณ์เฉพาะกิจ มีลักษณะคล้ายตะขอ หย่อนลงไปเกี่ยวตัวเด็กขึ้นมา แต่ก็ถกกันถึงอันตรายที่อาจจะเกิดแก่ตัวเด็ก จนในที่สุดก็ตกลงใจ ใช้วิธีดึงเสาเข็มต้นแรกยาว 12 เมตร ขึ้นมาก่อน ถ้าเด็กค้างอยู่ในช่วงนี้ ก็จะได้ตัวเด็กขึ้นมาด้วย แต่ถูกท้วงว่าถ้าเด็กอยู่ในต้นที่ 2 ก็จะทำให้โคลนและน้ำทะลักเข้าไปท่วมเด็ก แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า จึงต้องใช้วิธีนี้ในที่สุด
เชือกค่อนข้างตึงมือ เจ้าหน้าที่ต้องดึงอย่างระมัดระวัง ความหวังเกิดขึ้นอีกเมื่อเด็กสั่นเชือก แต่ผ่านมาเพียง 5 เมตร น้ำหนักกลับเบาหวิว พร้อมความหวังที่ปลิวหายไปด้วย
เจ้าหน้าที่ขุดดินเปิดปากหลุม แต่กลุ่มไทยมุงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และไทยมุงกว่า 500 ชีวิต ล้อมอยู่รอบเสาเข็มที่เกิดเหตุ รวมทั้งคนป่วยในโรงพยาบาลก็ออกมามุงดูด้วย และส่งเสียงเชียร์เป็นระยะ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรค เสี่ยงทำให้เจ้าหน้าที่ถูกฝังจากดินถล่ม
สัญญาณแห่งความหวังยังมี เพราะหนูน้อยยังดึงเชือกอยู่ จึงเริ่มแผนสุดท้าย แต่สิ่งเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อเสาเข็มหักกลางต้น ดินโคลนและน้ำไหลพรูเข้าไปดั่งที่ทุกฝ่ายกลัวว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งถ้าเด็กอยู่ในต้นที่ 2 ก็คงถูกถูกโคลนทับตายแล้ว จึงตัดสินใจให้รถปั้นจั่นดึงเสาเข็มต้นที่ 1 ขึ้นมา แต่รถปั้นจั่นก็ดึงไม่ไหว ต้องดับเครื่องยอมแพ้
10 ชั่วโมงผ่านไป ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้น หลายคนลงความเห็นว่าหนูน้อยคงเสียชีวิตแล้ว แต่ก็ต้องกู้ศพเอาขึ้นมาให้ได้ แม่ของเด็กบอกว่า “ไม่มีอะไรจะแทนค่าชีวิตของลูกได้ เมื่อเขาต้องจากไปแล้ว ก็จะไม่ขอเรียกร้องอะไรจากใคร สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือต้องการศพลูกขึ้นมา เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านลำนารายณ์ ซึ่งสร้อยเพชรเคยไปอยู่กับย่า”
จากปฏิบัติการช่วยชีวิต กลายเป็นกู้ร่างไร้วิญญาณของเด็กตัวน้อยๆ.. จนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ การขุดเอาศพขึ้นมาก็ยังไม่สำเร็จ ตะขอที่หย่อนลงไปเกี่ยวศพได้ 2 ครั้ง แต่ก็ได้เพียงกลิ่นศพติดตะขอขึ้นมา สุดท้ายแล้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาถึง 5 วัน ในวันที่ 9 ก.พ. จึงกู้ร่างหนูน้อยขึ้นมาได้ พร้อมใช้ทุนทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท ในการกู้ร่าง แต่ก็เทียบไม่ได้กับความสูญเสียชีวิตของหนูน้อยที่ต้องสิ้นลม
ผู้รับเหมาถูกดำเนินคดี กระทำการโดยประมาทเป็นให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้จะกั้นรั้วบริเวณก่อสร้าง มีป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปโดยเด็ดขาด ตามที่กฎหมายได้ระบุ แต่ก็เปิดช่องไว้ให้คนงานเข้าออกได้สะดวกโดยไม่มีประตูปิดกั้น จนหนูน้อยวัย 16 เดือน เดินเตาะแตะด้วยความไร้เดียงสา จนร่วงหล่นลง กลายเป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมข่าวเศร้า ที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนไทยหลายๆ คน จวบจนถึงทุกวันนี้..