กรณี เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์ ศิลปินหนุ่มชื่อดัง วัย 45 ปี ถูกชายหนุ่มบุกขึ้นไปทำร้ายร่างกายด้วยการชกหน้า ขณะร้องเพลงอยู่บนเวที ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านคลองสาม จ.ปทุมธานี เมื่อค่ำคืนวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา และต่อมา เอ๊ะ พร้อมด้วย กัน จอมพลัง ได้ไปเปิดใจในรายการโหนกระแส ก่อนให้สัมภาษณ์ตอนนี้มีอาการหูวิ้ง การได้ยินลดลง แต่ยังรับงานได้ รับหวาดรระแวง และขอเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัย พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

“เอ๊ะ-จิรากร” เปิดใจกรณีถูกบุกชกหน้าบนเวที เผยการได้ยินลดลง ยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ไม่มีเจรจายอมความทุกกรณี!

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ นายพัฒนชัย ลำกะ เจ้าของร้าน Walk in 88 ซอยรังสิต-นครนายก 67 ถนนเลียบคลองสาม ต.ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ร้านที่เกิดเหตุ พร้อมหุ้นส่วนเดินทางมาที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อมอบหลักฐานให้กับ พ.ต.ท.เกรียงไกร แสงยศ สว.(สอบสวน) พื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมผู้ก่อเหตุในอีกหลายความผิด

ทนายไพศาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนเจ้าของร้านติดต่อมาว่า มีข้อพิรุธหลายเรื่อง ทางคู่กรณีมีการไปออกรายการรายการหนึ่งและบอกว่า เคยก่อเหตุในร้านนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง มาตามหาแฟนสาว แต่สุดท้ายตอนก่อเหตุอ้างว่าเมา พอทนายมาดูข้อเท็จจริงแล้วมันเข้าข่าย องค์ประกอบความผิดหลายข้อหา ส่วนของข้อหาเบาๆ เช่น เมาไม่จ่ายเงิน เมาก่อความวุ่นวาย แต่จริงแล้วเข้าข้อกฎหมายทำให้เสียทรัพย์ด้วย ซึ่งหลักๆ ตอนนี้ก็มี เมาไม่จ่าย เมาก่อความวุ่นวาย ทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุกรบกวนการครอบครองโดยปกติสุข แต่จะเข้าข่ายหรือไม่ ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณา แต่ทุกอย่างขึ้นกับหลักฐานความผิดฐานละเมิดในทางแพ่งซึ่งทางร้านมีความเสียหายเป็นจำนวนมากในเหตุการณ์นั้น

ทนายไพศาล เผยอีกว่า ทั้งนี้ทางร้านมีการจ้างศิลปินมา หลังเกิดเหตุแขกหลายรายก็ไม่จ่ายเงิน สร้างความเสียหายให้ทางร้าน อีกทั้งกระทบความเชื่อมั่นว่าแขกจะกล้าเข้ามาใช้บริการอีกหรือไม่ ยืนยันจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาจนถึงที่สุด สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากคุณเอ๊ะแล้ว ทางร้านก็เสียหายและเสียหายหนักด้วย เพราะประกอบการค้าความเชื่อมั่นความน่าเชื่อถือ ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์

นายพัฒนชัย เจ้าของร้าน Walk in 88 เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีผลเรื่องความเชื่อมั่น เพราะร้านเราต้องการมีลูกค้าใหม่มาเรื่อยๆ แต่หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจทำให้คนที่เข้ามาเที่ยวมีความกลัวแล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกหรือไม่ จะปลอดภัยหรือไม่ หลังจากนี้ตนได้กำชับในส่วนของบริษัทการ์ดว่า ต้องดูแลให้เข้มข้นกว่าเดิมมากขึ้น อยากให้ลูกค้าทุกคนเชื่อมั่นในความปลอดภัยที่มาใช้บริการ ในส่วนของค่าเสียหาย ปกติการจัดคอนเสิร์ตแล้วยอดขายจะอยู่ที่ 5-6 แสนบาท โดยเหตุการณ์วันนั้นคอนเสิร์ตต้องหยุด ยอดขายที่ว่าจะได้ก็ไม่ได้ ไหนจะเรื่องความมั่นใจของลูกค้าอีก ความเสียหายมาก ทางทนายความตรวจสอบรวบรวมแล้วพบว่าเสียหายหลายล้านบาท