สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของนิวซีแลนด์ รายงานอิทธิพลของไซโคลนแกเบรียล ซึ่งพัดถล่มเกาะเหนือ และพื้นที่บางส่วนของเกาะใต้ ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 11 ราย และ “ยังมีประชาชนอีกประมาณ 3,000 คน” อยู่ในสถานะ “ขาดการติดต่อ” กับเจ้าหน้าที่และครอบครัว
New Zealand's cyclone death toll at 11, thousands still missing https://t.co/rbnfckPaTj pic.twitter.com/U1CL93vBwS
— Reuters (@Reuters) February 19, 2023
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ยอมรับว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ “รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ” ทั้งนี้ ผู้นำนิวซีแลนด์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความพร้อมให้กับทุกฝ่าย ในการรับมือกับอิทธิพลรุนแรงของไซโคลนแกเบรียล โดยนับเป็นเพียงครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์เท่านั้น ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศ ต่อจากธรณีพิบัติภัย ที่เมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อปี 2554 และการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563
Hundreds of Te Karaka residents watched as their homes were engulfed in floodwaters https://t.co/t7tpcsYdhk #Newshub #CycloneGabrielle pic.twitter.com/GZvRDomTb1
— Newshub (@NewshubNZ) February 18, 2023
Search and rescue teams still desperately working to reach isolated flood-affected communites https://t.co/t7tpcsYdhk #Newshub #CycloneGabrielle pic.twitter.com/9SUuZuYRCo
— Newshub (@NewshubNZ) February 18, 2023
อนึ่ง เมืองออกแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ โดยมีประชากรประมาณ 1.6 ล้านคน เพิ่งผ่านพ้นน้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ และต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติครั้งใหม่.
เครดิตภาพ : AFP