สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของนิวซีแลนด์ รายงานอิทธิพลของไซโคลนแกเบรียล ซึ่งพัดถล่มเกาะเหนือ และพื้นที่บางส่วนของเกาะใต้ ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 11 ราย และ “ยังมีประชาชนอีกประมาณ 3,000 คน” อยู่ในสถานะ “ขาดการติดต่อ” กับเจ้าหน้าที่และครอบครัว


ขณะที่ นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ยอมรับว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ “รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ” ทั้งนี้ ผู้นำนิวซีแลนด์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความพร้อมให้กับทุกฝ่าย ในการรับมือกับอิทธิพลรุนแรงของไซโคลนแกเบรียล โดยนับเป็นเพียงครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์เท่านั้น ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศ ต่อจากธรณีพิบัติภัย ที่เมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อปี 2554 และการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563


อนึ่ง เมืองออกแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ โดยมีประชากรประมาณ 1.6 ล้านคน เพิ่งผ่านพ้นน้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ และต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติครั้งใหม่.

เครดิตภาพ : AFP