สกาย สปอร์ต อีกสื่อดังแดนผู้ดี รายงานว่า หลังเส้นตายการประมูลซื้อ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา มี 2 เจ้า ที่ยื่นซื่อหุ้นทั้ง 69 เปอร์เซ็นต์ที่ “ตระกูลเกลเซอร์” ครองผีแดงอยู่ คือมหาเศรษฐีอังกฤษ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ และกลุ่มทุนกาตาร์ ชีค ฮาเหม็ด บิน ยาสซิม บิน จาเบอร์ อัล ธานี โดย แรตคลิฟฟ์ มีโครงการจะสร้างและพัฒนาสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด สังเวียนเหย้าของผีแดงด้วย

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของสกาย สปอร์ต บริษัทของ แรตคลิฟฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติด้านปิโตรเคมี INEOS ก็ถูกกล่าวหาว่าล้างโลกเช่นกัน โดยใช้กีฬาเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์และชื่อเสียงขององค์กร ซึ่ง แรตคลิฟฟ์ ยังเป็นเจ้าจองทีมจักรยานระดับโลก INEOS Grenadiers, Nice และเป็นเจ้าของหนึ่งในสามของทีมเมอร์เซเดส ในศึกเอฟวัน  

ขณะที่ ชีค ฮาเหม็ด บิน ยาสซิม บิน จาเบอร์ อัลธานี มั่นใจว่า ได้เสนอราคาที่น่าสนใจและไม่ได้เชื่อมโยงกับ Qatar Sports Investments (QSI) หรือ Qatar Investment Authority (QIA) ที่ครองทีมอื่นอยู่ โดยการเสนอราคาของกลุ่มทุนกาตาร์ จะล้างหนี้ทั้งหมดของสโมสรซึ่งยังคงอยู่ที่ 515 ล้านปอนด์สุทธิ หลังจากการซื้อกิจการของครอบครัวเกลเซอร์ ในปี 2005 ที่ 790 ล้านปอนด์ โดยได้รับทุนจากเงินที่ยืมมา ซึ่ง สกาย สปอร์ต ระบุว่า การประมูลของกาตาร์เชื่อว่าเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดบนโต๊ะ ไม่ใช่แค่ในแง่ของราคา แต่ยังเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการลงทุนในทีมชายและหญิง สนามแข่งและสนามฝึกซ้อม ตลอดจนการปรับปรุงพื้นที่รอบๆ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่มีข้อกังวลสำหรับด้านสิทธิมนุษยชนในกาตาร์ ที่ปฏิบัติต่อสตรี

มีการเปิดเผยในคืนวันเสาร์ว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐ Elliott Management ได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับ “ผีแดง” ก่อนเส้นตายเวลา 22.00 น. ของคืนนวันศุกร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอสำหรับการจัดหาเงินทุนที่เป็นไปได้ ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนแมนเชสเตอร์ ยูนเต็ด Manchester United Supporters Trust (MUST) ได้ออกแถลงการณ์ย้ำถึงความต้องการที่พวกเขาได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้สำหรับเจ้าของรายใหม่ ถึงข้อกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้และบันทึกด้านสิทธิมนุษยชนของเจ้าของใหม่ที่มีศักยภาพ