เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ส.ค. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง หลังถูกกล่าวหาว่านำคลิปเหตุการณ์ที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตใน สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปตบทรัพย์จำนวน 20 ล้านบาทจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เพื่อไม่ให้เผยแพร่คลิปและดำเนินการจากเหตุการณ์ดังกล่าว

นายเดชา เปิดเผยว่า เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายษิทรา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพ์ หลังจากมีการโพสต์ พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ กล่าวหาว่าตนไปตบทรัพย์กับอดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวก และอ้างว่าตนได้รับคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปต่อรองกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งตนยอมรับว่า ได้รับคลิปมาจริง จากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก่อนหน้านายษิทรา 15 นาที แต่ที่ไม่นำเสนอ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เกรงว่าจะเสียรูปคดี หลังจากที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ให้ปากคำ ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้มีการเรียกทรัพย์แต่อย่างใด จึงขอท้านายษิทรา ว่า หากมีหลักฐานยืนยันว่าตนตบทรัพย์จริง ให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที หากไม่เข้ามาแจ้งความ ก็เหมือนเป็นหมาตัวหนึ่ง ที่เอาแต่เห่าไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตน และนายษิทราก็เป็นคู่กรณีกันมาก่อน ในเรื่องต่างๆ

“ผกก.โจ้-หมวดก้อง”ถูกสอบ 13 ชม. เดินก้มหน้าแววตากังวล คุมตัวฝากขัง…

นายเดชา เผยอีกว่า วันนี้ได้นำหลักฐานการโพสต์บนโซเชียลของนายษิทรา พร้อมกับการสัมภาษณ์ผ่านรายการต่างๆ มายื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ส่วนกระแสที่ว่าตนร้อนตัวไปเองนั้น มองว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว แม้ว่านายษิทราได้ปกปิดชื่อแล้วโพสต์ลงโซเชียล แต่ข้อความที่ส่งให้กับผู้สื่อข่าว และกลุ่มทนายนั้น ปรากฏชัดเจนว่าเป็นชื่อเพจทนายคลายทุกข์ หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สภาทนายความ เพื่อให้ตรวจสอบมรรยาททนายความของนายษิทรา อีกด้วย

นายเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคำให้การของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เมื่อค่ำวานนี้นั้น ส่วนตัวมองว่า น่าจะมีทนายความให้คำปรึกษามาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่ง ผกก.โจ้ ได้ชี้แจงว่าทำตามหน้าที่ ไม่ได้รีดทรัพย์ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ไม่ได้ตั้งใจทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต พร้อมนำส่งที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ มองว่าจะส่งผลต่อรูปคดีอย่างมาก เพราะคำให้การ และคำชี้แจงต่อสื่อมวลชน สวนทางกับข้อมูลของผู้ร้องเรียนที่ส่งคลิปหลักฐานมาให้ในครั้งแรก