สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่า นายฉิน กัง รมว.การต่างประเทศจีน แถลงนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคาร มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ตึงเครียดอย่างหนักในปัจจุบัน เป็นผลจากการที่รัฐบาลวอชิงตันยังคงใช้นโยบาย “ป้องปรามและควบคุม” ต่อรัฐบาลปักกิ่ง “มากกว่าการแข่งขันอย่างเป็นธรรม”
ขณะเดียวกัน สหรัฐยังคง “เล่นเกมบนความเสี่ยง” ด้วยการใช้ผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ และอนาคตของมนุษยชาติ “เป็นเดิมพัน” หากรัฐบาลวอชิงตันยังคงไม่ปรับเปลี่ยน หรือยุติการดำเนินการเช่นนี้ “แน่นอนจะนำไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า” ระหว่างสหรัฐกับจีน

ในประเด็นความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ที่หมายถึงไต้หวัน นายฉิน กล่าวว่า “เป็นเรื่องหาสาระมิได้” เมื่อสหรัฐยังคงกล่าวว่า “ไต้หวันไม่ใช่กิจการภายในของจีน” รัฐบาลปักกิ่งย้ำมาตลอดว่า “ไต้หวันคือแกนกลางในศูนย์กลางผลประโยชน์ของจีน” และเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องนี้จึงถือเป็น “เส้นแดงสำคัญ” ที่รัฐบาลวอชิงตัน “ไม่ควรล่วงล้ำอย่างเด็ดขาด” พร้อมทั้งเน้นว่า จีนต้องการ “รวมชาติอย่างสันติ”
ในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ นายฉิน ยืนยันว่า จีนสนับสนุนและพร้อมให้ความร่วมมือ แก้ไขปัญหาหนี้สินระหว่างประเทศ “บนแนวทางสร้างสรรค์และสมเหตุสมผล” พร้อมทั้งยืนยันว่า จีนไม่เคยมีแผน “สร้างกับดักหนี้” กับประเทศแห่งใด
เกี่ยวกับวิกฤติการณ์ในยูเครน รมว.การต่างประเทศจีน กล่าวว่า “มือที่มองไม่เห็น” กำลัง “ปลุกปั่นสถานการณ์” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง และยืนยันว่า รัฐบาลปักกิ่งเชื่อมั่นในแนวทางการเจรจาอย่างสันติ ตามหลักการทูตระหว่างประเทศ คือหนทางเหมาะสมที่สุด ในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เมื่อมีการซักถามเกี่ยวกับการที่สหรัฐยังคงกล่าวหา ว่าจีน “มีแผน” มอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่รัสเซีย และจะมีการคว่ำบาตร นายฉินกล่าวว่า “จีนไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง” ระหว่างรัสเซียกับยูเครน การกล่าวโทษของรัฐบาลวอชิงตัน “ไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง”.
เครดิตภาพ : REUTERS