สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ เยือนอิรัก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการเข้าพบ นายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด อัล-ซูดานี ที่กรุงแบกแดด ซึ่ง พล.อ.ออสติน กล่าวว่า “ทหารอเมริกันพร้อมประจำการอยู่ในอิรักต่อไป ตามคำเชิญของรัฐบาลแบกแดด”
ขณะเดียวกัน พล.อ.ออสติน กล่าวด้วยว่า สหรัฐพร้อมสานต่อการส่งเสริมและขยายขอบเขต การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนความมั่นคง เสถียรภาพ และบูรณภาพแห่งดินแดนของอิรัก ปัจจุบัน สหรัฐยังคงมีทหารประจำการอยู่ในอิรักประมาณ 2,500 นาย
'U.S. forces are ready to remain in Iraq at the invitation of the government of Iraq,' U.S. Defense Secretary Lloyd Austin said during an unannounced Iraq visit. The U.S. currently has 2,500 troops in Iraq – and an additional 900 in Syria https://t.co/83tmaGsGwb pic.twitter.com/5jloE4mdGg
— Reuters (@Reuters) March 8, 2023
ด้าน ทำเนียบรัฐบาลอิรัก ออกแถลงการณ์ว่า จุดยืนของรัฐบาลแบกแดดในด้านนโยบายต่างประเทศ คือ การรักษาสมดุลทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค บนพื้นฐานของการแบ่งปันผลประโยชน์และการเคารพซึ่งอธิปไตย พร้อมทั้งระบุด้วยว่า “เสถียรภาพของอิรักถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการผดุงไว้ซึ่งความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค”
ทั้งนี้ การเยือนอิรักของ พล.อ.ออสติน เกิดขึ้นก่อนวันครบรอบ 20 ปี กองทัพสหรัฐบุกอิรัก ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มี.ค. 2546 เมื่อประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐในเวลานั้น สั่งเปิดฉากปฏิบัติการทางทหาร ต่อรัฐบาลแบกแดดของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน โดยบุช กล่าวว่า ผู้นำอิรัก “ครอบครองอาวุธทรงอานุภาพทำลายล้างสูง” การสู้รบคร่าชีวิตพลเมืองอิรัก ประมาณ 100,000-200,000 ราย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ สหรัฐยังไม่เคยพบอาวุธที่ว่านั้น.
เครดิตภาพ : REUTERS