เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.พชรพล แจ่มใส รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.ลพบุรี รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยนเรศวร 2 หมู่ 1 ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.อานันทมหิดล และ มูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ปลูกในเนื้อที่ 70 ตารางวา ภายในห้องโถงของบ้าน บริเวณด้านหน้าทีวีที่ยังเปิดอยู่ พบศพนาย ประมวล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 69 เจ้าของบ้าน สภาพสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้นั่งเล่น ขาพาดวางอยู่กับเก้าอี้อีกตัว โดยมีภรรยาผู้ตาย นั่งอยู่หน้าบ้านพร้อมญาติ ด้วยอาหารตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการตรวจสตามร่างกาย พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวา กระสุนตุงอยู่ที่ขมับซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองเต็มหมอนหนุนศีรษะ โดยที่คอมีแว่นสายตาแขวนอยู่ บนโซฟาสีดำข้างศพผู้ตายด้านซ้าย พบกระสุนปืนขนาด .38 วางอยู่จำนวน 5 นัด พร้อมซองปืนสีดำ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ถาดยา และกล่องหน้ากากอนามัย ส่วนช่องระหว่างเก้าอี้ผู้ตายและโซฟามีอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ และอาวุธปืนยาว ปืนอัดลมแขวนอยู่ เบื้องต้นไม่มีร่องรอยการต่อสู้ จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี มาตรวจสอบที่เกิดหตุ

จากการสอบสวนลูกสาวผู้ตายให้การว่า พ่อเกษียณจากเจ้าหน้าที่ชลประทานมาหลายปี มักจะอาศัยอยู่ที่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน ก่อนเกิดเหตุพ่อยังทำกับข้าวกินเอง ส่วนตนกับญาติออกไปรับประทานอาหารที่ร้านหมูกระทะในละแวกใกล้เคียงบ้าน โดยให้พ่ออยู่บ้านเพียงคนเดียว หลังจากตนกลับเข้ามาที่บ้าน เปิดประตูบ้านก็เห็นพ่อนอนอยู่ แต่พอเดินเข้ามาใกล้ๆก็ต้องตกตะลึง เพราะพบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการปลิดชีพตัวเองของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีความเครียดอะไร อีกทั้งมีอัธยาศัยดี แต่ทราบว่าผู้ตายชอบเล่นอาวุธปืน คาดว่าระหว่างที่ภรรยาและลูกสาวออกไปกินอาหารนอกบ้าน คงหยิบอาวุธปืนขนาด .38 มาเล่น พร้อมนำกระสุนปืนออกจากลูกโม่ 5 นัด จากนั้นหมุนลูกโม่แล้วนำอาวุธปืนจ่อเข้าที่ขมับศีรษะตัวเองในลักษณะรัสเซียนรูเล็ตต์ ก่อนลั่นไก แต่บังเอิญจังหวะมีกระสุนพอดี จึงทำให้กระสุนลั่นใส่ขมับจนเสียชีวิต ทั้งนี้ ภรรยา ลูกสาว และญาติๆไม่ติดใจสาเหตุการตาย นำร่างส่งไปชันสูตรที่ รพ.อานันทมหิดล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัด ก่อนมอบให้ญาตินำร่างผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป