สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ว่าที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ชุดที่ 14 ทั้ง 2,952 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ ในการลงคะแนน เมื่อวันศุกร์ รับรองการดำรงตำแหน่งผู้นำจีนเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน หรืออีกอย่างน้อย 5 ปี ให้กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมการควบตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ต่อเนื่องเป็นสมัยที่สามเช่นกัน


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็น “เชิงสัญลักษณ์” เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน สมัยที่ 20 มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง วัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการกลาง และประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2561 ยกเลิกการจำกัดวาระของผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเดิมทีกำหนดไว้ที่ไม่เกินสองสมัย หรือ 10 ปี

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน หย่อนบัตรลงคะแนน ระหว่าการลงมติของสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง


ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเอ็นพีซีมีมติเลือกนายหาน เจิ้ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกคณะกรรมการประจำ ของกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือโปลิตบูโร ชุดที่ 19 ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแทน นายหวัง ฉีซาน และเลือกนายจ้าว เล่อจี้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการประจำของเอ็นพีซี

นายหาน เจิ้ง ( คนขวา ) จับมือกับนายหวัง ฉีซาน ระหว่างพิธีถ่ายโอนอำนาจรองประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน สนทนากับ นายหลี่ เฉียง ว่าที่นายกรัฐมนตรี ระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง


ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากถือเป็น “สมาชิกหมายเลขสอง” รองจากประธานาธิบดี นั่นคือ นายกรัฐมนตรี จะมีการลงมติรับรองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ให้แก่นายหลี่ เฉียง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกหมายเลข 2 ของโปลิตบูโร เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว

นายจ้าว เล่อจี้ สาบานตน รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการประจำของสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี )


อนึ่ง นายหลี่ เฉียง ซึ่งจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน นายหลี่ เค่อเฉียง ที่ดำรงตำแหน่งครบสองสมัย ถือเป็นนักการเมืองจีนคนแรก นับตั้งแต่ นายโจว เอินไหล ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ โดยไม่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมาก่อน.

เครดิตภาพ : REUTERS