“เจ้าจิตร” สมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 เล่ามรสุมชีวิต ถึงขั้นต่างสั่งเสียกันกับภรรยาแล้ว หลังจากภรรยาป่วยหนัก บอกว่าไม่ไหวแล้ว แต่ สมจิตรบอกว่า ให้ตนเองตายดีกว่า

นักชกเจ้าของฉายา “เจ็บมาเยอะ” เล่าเรื่องตัวเอง ในรายการ “ชิงร้อย เดอะสตอรี่” ถึงมรสุมชีวิต หลังจาก ภรรยา “อุ๋ม-ศศิธร” ป่วยเป็นโรคเอสแอลอี (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) หรือ โรคพุ่มพวง

“หนักสุดในครอบครัว อยู่ ๆ บวมที่คาง ไปหาหมอบอกเป็นไทรอยด์ เดือนนึง ตัวบวม หน้าบวม อาการหนักมาก แอดมิตเลย ขาพุพอง น้ำไหลมาที่เนื้อตัวเอง น้ำในร่างกายไหลจนกางเกงยีนโชกเป็นน้ำ เดินไปหาหมอ พอขึ้นเตียง เอาเท้าลงไม่ได้ ปวดเหมือกระดูกอะไรบิดเข้าไป นอน 12 วัน” สมจิตรเล่า

“สรุปเป็นโรค เอสแอลอี แล้วเป็นช่วงโควิด เขาก็หนักอยู่ อาการหนัก ร่างกายดาวน์ไปแล้ว ข้าว 3-4 วันไม่ได้กินเลย เข็มฉีดยา ทุกอย่างระโยงระยาง”

“เขาบอกว่า เหมือนไม่ไหว เขาเหนื่อย ถ้าเขาตายไป ลูกจะอยู่ยังไง เราก็ฟูมฟาย 2 คน บอกว่า ถ้าตาย พี่ตายดีกว่า พี่ตาย อุ๋มยังเลี้ยงลูกได้ ที่ผ่านมาอุ๋มเลี้ยงลูกตลอด ผมทำงานนอกบ้าน”

“คุยไปคุยมา ตัดสินใจ ต้องสู้ด้วยกัน ตายไม่ได้แล้ว ในเมื่อต่างคนต่างอยากตาย ต้องผ่านไปให้ได้ อดทน แข็งใจ สวดมนต์ร้องไห้ตรงนั้นเลย หลังจากที่สั่งเสียกัน”

“ตอนนั้นเขาสั่งเสีย เราฐานะหัวหน้าครอบครัว เราไม่มีเขา เราเดินต่อไปไม่ได้ ความอบอุ่นมันไม่เหมือนกัน สู้ด้วยกำลังใจ สุดท้ายการรักษา ก็ดีขั้นทุกวัน ตัวที่บวมก็เริ่มเบาลง แต่ฟอลโลว์ทุกอาทิตย์ จนดีขึ้นตามลำดีบ อาการตอนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องกินยาต่อไปเรื่อย ๆ”

“หลังป่วย ผมมีเวลาอยู่กับเขามากขึ้น เลิกยิมเลย ให้พัก อยู่บ้าน พักผ่อน นอน เย็นพาไปเดินออกกำลังกาย ปีนึง ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น” สมจิตร กล่าว.

(ขอบคุณ workpoint)