แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโลกเริ่มตื่นตัวเรื่องมหันตภัยจากพลาสติก เพราะปัจจุบันถูกทิ้งกลายเป็นขยะอยู่มากมายทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในทะเลหรือก้นมหาสมุทร จนกลับกลายเป็น ศัตรูตัวฉกาจ ที่กลายเป็นปัญหาระดับโลก ที่มนุษย์ต่างพยายามหาทางกำจัด และงดใช้ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากพลาสติก

ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคต่างเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และพยายามร่วมกันลดปริมาณการใช้พลาสติกอย่างจริงจัง เห็นได้จาก “ยูนิลีเวอร์” ที่ประกาศความมุ่งมั่นเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของบริษัททั้งหมด 100% ให้รีไซเคิลได้ ใช้ซํ้าได้ หรือย่อยสลายได้ ลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง โดยที่ผ่านมาค่อย ๆ เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของ “ซันไลต์” นํ้ายาล้างจานจากขวดพลาสติกพีอีที เป็นขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% และปีนี้มีแผนเปลี่ยนถุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับพันธมิตรร้านค้าปลีกสมัยใหม่เพื่อติดตั้งสถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่น สำหรับนำขวดนํ้ายาปรับผ้านุ่มเดิมที่ใช้หมดแล้วมาเติม เช่นเดียวกับ บริษัท ไอ.พี.วัน ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำภายใต้แบรนด์ไฮยีน, วิกซอล, วิซ, ไอวี่ แดนซ์ และโฟกัส ที่เดินหน้าโปรเจกต์ So in Green โดยร่วมกับพันธมิตรติดตั้งตู้รีฟิลนํ้ายาปรับผ้านุ่มไฮยีน ช่วยลดขยะพลาสติกในครัวเรือน และเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้ขยะพลาสติกด้วยการใช้ซํ้า

ขณะที่ บริษัท คอลเกตปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) ผู้จำหน่ายครีมอาบนํ้า “ปาล์มโอลีฟ” ได้ร่วมกับ เอสซีจี เคมิ คอลส์ หรือ เอสซีจีซี เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลมาใช้กับบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มผลิต ภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว โดยเริ่มต้นที่ครีมอาบ นํ้าปาล์มโอลีฟ พร้อมวางแผนต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งนอกจากลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อแก้วิกฤติภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่งด้วย

ด้าน โคคาโคล่าหรือเครื่องดื่มนํ้าอัดลมโค้ก ที่ถูกยกให้เป็นแชมป์ของการก่อมลพิษพลาสติกมากที่สุดในโลกในหลายปีที่ผ่านมาได้เดินหน้าลบภาพลักษณ์เหล่านั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการใช้ขวดที่ทำมาจากวัสดุพลาสติกรีไซเคิล 100% ในการบรรจุเครื่องดื่มนํ้าอัดลมในสหราชอาณาจักร และมีแผนเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มต่าง ๆ ของแบรนด์ทั้งหมด 25% ให้จำหน่ายด้วยขวดพลาสติก หรือขวดแก้วที่ใช้เติมใหม่ หรือคืนกลับมาที่บริษัทได้ รวมถึงการจำหน่ายเครื่องดื่มผ่านตู้เติมของบริษัท หรือตู้กดนํ้า

ขณะที่ “เป๊ปซี่” ล่าสุด ประกาศความพร้อมในการใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% หรืออาร์เพ็ท 100% เป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มนํ้าอัดลมของไทย ซึ่งจะวางจำหน่ายภายในเดือน เม.ย.66 นี้ หลังจากเอ็นวิคโค ผู้ผลิตเม็ดอาร์เพ็ท ได้รับมาตรฐานสากลและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเริ่มเปิดตัวด้วยเครื่องดื่มเป๊ปซี่ และเป๊ปซี่ไม่มีนํ้าตาล ขนาด 550 มิลลิลิตรก่อน จากนั้นตั้งเป้าหมายปี 73 เครื่องดื่มในเครือซันโทรี่ เป๊ปซี่ จะต้องใช้ขวดอาร์เพ็ทให้ได้ 17%.