สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ว่า สำนักงานยามฝั่งของฟิลิปปินส์รายงานว่า ภารกิจลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 18-24 เม.ย. ที่ผ่านมา มีการพบกองเรือประมงจีนมากกว่า 100 ลำ เรือคอร์เวตของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) และเรือลาดตระเวนของพีแอลเออีก 2 ลำ ลอยลำอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ


ทั้งนี้ เรือลำหนึ่งของจีน “หักเลี้ยวอย่างอันตราย” โดยอยู่ห่างจากเรือลำหนึ่งของฟิลิปปินส์เพียง 150 ฟุตเท่านั้น ขณะที่เรืออีกสองลำของจีน “ใช้กลยุทธ์ก้าวร้าว” ซึ่งถือเป็น “การข่มขู่คุกคามอย่างมีนัยสำคัญ ต่อความปลอดภัยของเรือและลูกเรือชาวฟิลิปปินส์”


ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลา ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์กล่าวหา เรือตรวจการณ์ของจีน ใช้อุปกรณ์ปล่อยเลเซอร์ “ระดับที่ใช้ในกิจกรรมทางทหาร” พุ่งตรงอย่างน้อย 2 ครั้ง มายังเรือลาดตระเวนของรัฐบาลมะนิลา ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจบริเวณแนวสันดอนโธมัสที่สอง ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ


ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีน ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าน่านน้ำในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากหมู่เกาะสแปรตลีย์ “เป็นดินแดนภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐบาลปักกิ่ง” การดำเนินการของเจ้าหน้าที่จีน “เป็นไปตามกฎหมายของจีน”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES