สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่านายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์ กับนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ เกี่ยวกับการจัดหา "วัคซีนใหม่" ให้กับอิสราเอล สำหรับใช้ในวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และ "ความเป็นไปได้" ในการแลกเปลี่ยนวัคซีนซึ่งไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี "กับประเทศอื่น" 
ทั้งนี้ ผู้นำอิสราเอลปฏิเสธให้ข้อมูล ว่าหมายถึงประเทศใด ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า รัฐบาลเทลอาวีฟเจรจาเรื่องนี้กับสหราชอาณาจักร แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะที่นพ.เฮซี เลวี อธิบดีกรมควบคุมโรคของอิสราเอล กล่าวว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ที่อิสราเอลต้องการใช้ในข้อตกลง จะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค.นี้ และเงื่อนไขทั้งหมดต้องได้รับความเห็นชอบจากไฟเซอร์ด้วย 
แม้นพ.เลวียังคงไม่ได้กล่าวว่า วัคซีนทั้งหมดมีจำนวนเท่าใด แต่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานไปในทางเดียวกันว่า 1 ล้านโดส ด้านสำนักงานใหญ่ของไฟเซอร์ ที่นครนิวยอร์ก ในสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทมีความยินดี ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ ตราบใดที่วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค สามารถปกป้องประชาชนจากโรคร้ายครั้งนี้ได้
ปัจจุบัน อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เร็วที่สุดในโลก โดยเกือบ 90% ของชาวอิสราเอลอายุมากกว่า 50 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES