ที่นี่ “ออสเตรีย” ดินแดนที่เสียงดนตรีจากยอดกวีเอกของโลกอย่าง โมสาร์ท และ โยฮัน สเตราส์ ยังคงส่งเสียงขับขาน โดยมีภาพของสตรีสูงศักดิ์ผู้มีสิริโฉมงดงาม เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้มาเยือนจะได้เห็นและสัมผัส

“ซิซี” (Sisi) คือชื่อเล่นที่ผู้คนเรียกขาน “สมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธ แห่งออสเตรีย” เจ้าหญิงผู้มีชีวิตวัยเด็กในบาวาเรีย ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีอิสระ พระองค์จึงมีอุปนิสัยร่าเริง รักธรรมชาติ นิยมการเล่นผาดโผนแบบเด็กผู้ชาย ทั้งการทรงม้า และล่าสัตว์ และไม่ค่อยโปรดระเบียบแบบแผนและกฎเกณฑ์ของราชสำนักอย่างที่กุลสตรีพึงกระทำ แต่แล้วชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อ สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย คู่หมายของเจ้าหญิงเฮเลนอ ผู้เป็นพี่สาว กลับมาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบกับเจ้าหญิงวัย 15 ชันษา ที่ติดตามพี่สาวไปในครั้งนั้น ก่อนจะตามมาด้วยพระราชพิธีอภิเษกสมรสในปีถัดมา

เรื่องราวของซิซี ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านซีรีส์เรื่อง “The Empress” ยิ่งทำให้เห็นความเป็นผู้นำในการใช้ชีวิตที่หรูหรา ทั้งยังเป็นนักผจญภัยและนักเดินทางที่รักธรรมชาติอีกด้วย และนั่นทำให้สถานที่ที่ซิซีเคยไปเยือนและพำนักอยู่ กลายมาเป็นเส้นทางเดินตามรอยเท้าของซิซี เพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของออสเตรีย

เริ่มต้นที่ “พระราชวังอิมพีเรียลในกรุงเวียนนา” หรือที่เรียกว่า “พระราชวังฮอฟบวร์ก” ศูนย์กลางแห่งอำนาจในกรุงเวียนนา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1279 ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่อื่น ในอดีตเคยเป็นที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำงานและบ้านของประธานาธิบดีออสเตรีย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจักรพรรดินีซิซี การเข้าชมห้องประทับและพิพิธภัณฑ์ซิซีในพระราชวังอิมพีเรียล เมื่อเดินผ่านห้องต่าง ๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่า จักรพรรดินีเอลิซาเบธเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงชีวิตของเธอ

จากนั้นไปที่ “พระราชวังเชินบรุนน์” (Schönbrunn Palace) ที่ประทับฤดูร้อนของราชวงศ์ นี่คือสถานที่ที่ยังคงสัมผัสได้ถึงความงดงามของบุคลิกของซิซีได้จนถึงทุกวันนี้ ห้องพักของซิซียังคงเป็นแบบเดียวกับเมื่อตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ทำให้สามารถจินตนาการภาพเธอนั่งอยู่ในห้องพักส่วนตัว ที่มีผ้าไหมที่ปักอย่างวิจิตรงดงาม และอย่าพลาดการเดินเล่นในสวนที่งดงามของพระราชวังด้วย

และพลาดไม่ได้กับสถานที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักของซิซี “อิมพีเรียลวิลล่าในเมืองบาดท์อิชเชิล” (The Imperial Villa at Bad Ischl) เพียงนั่งรถไฟระยะเวลาสั้น ๆ จากซาลซ์บวร์ก ก็สามารถสำรวจเมืองบาดท์อิชเชิล เมืองเล็ก ๆ ที่งดงามราวภาพวาด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักของ ซิซี และ จักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ (Emperor Franz Joseph) ซึ่งจักรพรรดิได้เลือกซิซี ที่ในขณะนั้นมีอายุ 15 ปี และอีกหนึ่งปีต่อมา งานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นในกรุงเวียนนา หนึ่งในของขวัญแต่งงานก็คือวิลล่าแห่งนี้ ในเมืองบาดท์อิชเชิลนั่นเอง

เอ็มมานูเอล เลห์เนอร์-เทลิช ผู้ช่วยทูตฝ่ายการท่องเที่ยวประจำสถานทูตออสเตรีย ประจำกรุงเทพฯ อธิบายว่า ด้วยทำเลอันยอดเยี่ยมของเวียนนา ที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรป ทำให้กรุงเวียนนาเป็นจุดเชื่อมต่อที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในออสเตรีย พร้อมทั้งมีตัวเลือกมากมายสำหรับการเดินทางไป-กลับ และขับรถท่องเที่ยวทั่วยุโรป

“นักท่องเที่ยวรู้จักประเทศออสเตรียผ่านหนังสือ จากการอ่านรีวิว หรือสื่อต่าง ๆ อาจมองว่าออสเตรียเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับฤดูหนาวเท่านั้น แท้จริงแล้วประเทศนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีลานสกีสำหรับผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ รวมถึงตลาดฤดูหนาวสุดโรแมนติก ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ และยังมีสิ่งที่น่าสนใจนำเสนอมากมาย สำหรับนักเดินทางทุกประเภทตลอดทั้งปีด้วย”

ตัวแทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office: ANTO) ยังได้เสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวในออสเตรีย อย่างแม่นํ้าดานูบที่มีชื่อเสียงในด้านการล่องเรืออันเงียบสงบ ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น ในขณะที่ป่าเขียวชอุ่มและทะเลสาบในบริเวณใกล้เคียง ที่นํ้ามีความบริสุทธิ์สามารถดื่มได้ นอกจากนี้เมืองและหมู่บ้านเล็ก ๆ หลายแห่งในออสเตรีย ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งชาวบ้านยินดีที่จะเล่าสู่กันฟังกับผู้มาเยือน ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ทำมาอย่างต่อเนื่องเสมอ

โดยมีภูเขาและทางนํ้าสวยงามเป็นที่รู้จักทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ในสภาพเดิมตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของประเทศในด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในวันที่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยมีทะเลสาบที่น่าทึ่งมากกว่า 25,000 แห่ง และภูเขาที่มีความสูงอย่างน้อย 3,000 เมตร 695 แห่ง รวมถึงพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่ ซึ่งนำแนวความคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมาใช้ และส่งเสริมผู้เข้าชม ลดการสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด รวมทั้งยังเลือกใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานจากนํ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ในรีสอร์ทต่าง ๆ ซึ่งใช้ในการทำงานของทุกอย่างตั้งแต่โรงแรมจนถึงเคเบิลคาร์ ร้านอาหาร และสปา ด้วยระบบรถไฟที่ครอบคลุมมากกว่า 5,000 กิโลเมตร และภูเขาสูงในหลายพื้นที่

หนึ่งในนั้นคือ “เซลล์ อัม เซ เมืองคาพรุน” (Zell am See-Kaprun) สวรรค์แห่งธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ธารนํ้าแข็งและทะเลสาบ เซลล์ อัม เซ ในเมือง คาพรุน เรียกตัวเองว่าเป็น “ภูมิภาคแบบจำลองสภาพภูมิอากาศและพลังงาน” ซึ่งแสดงถึงความ
มุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ธุรกิจหลายแห่งใน เซลล์ อัม เซ ยังได้รับการรับรองจาก Austrian Eco-Label ที่เป็นการรับรองคุณภาพสำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

อีกแห่งคือ “ซังคท์ อันทอน อัม อาร์ลแบร์ก” (St. Anton am Arlberg) สถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามและอากาศบนภูเขาที่บริสุทธิ์ โดยที่นี่มีการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น St. Anton ถือเป็นผู้ริเริ่มโครงการด้านความยั่งยืนมากมายที่พึ่งพาตนเองได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

“อินส์บรุค” (Innsbruck) เมืองหลวงของทิโรล และเป็นที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ที่นี่ผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกในเมือง ด้วยขนาดของเมืองนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ และใช้จักรยานเช่า 350 คัน ที่มีอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง 44 จุด โดยผู้มาเยือนสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรี ด้วยบัตรของผู้เข้าพักด้วย

ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่เติบโตและไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันมีผู้เดินทางจากประเทศไทยเข้ามาประมาณ 60,000 คน และเข้าพักแบบค้างคืนประมาณ 110,000 คืนต่อปี และจำนวนเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศไทยและออสเตรีย กำลังเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเส้นทางกรุงเทพฯ-เวียนนา มีจำนวน 12 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยสายการบิน EVA Air และ Austrian Airlines

การเดินทางตามรอยของซิซีเป็นแค่หนึ่งในหลายวิธีในการสัมผัสความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของอสเตรีย เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะวันนี้นักท่องเที่ยวไม่ได้ต้องการเพียงแค่ชื่นชมกับสถานที่สวย ๆ บรรยากาศแปลกตาเท่านั้น แต่ยังใส่ใจดูแล ทั้งต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาความสวยงามเหล่านั้นไว้.

อธิชา ชื่นใจ