เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 พ.ค. น.ส.วรรณา แก้วชิน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 บ้านสระคุน้อย หมู่ 7 ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมญาติรวม 5 คน เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ค่าไฟฟ้าบ้านพักอาศัย มีราคาแพงผิดปกติมากรวม 4 เดือน ค้างชำระอยู่ถึง 51,000 บาท ทั้งที่ไม่มีคนอยู่อาศัยตามปกติมานานกว่า 1 ปี แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบ พบว่ามีจุดที่กระแสไฟฟ้ารั่ว เป็นการใช้ไฟฟ้าจริงในบ้านพักอาศัย การไฟฟ้าสามารถช่วยเหลือได้เพียงตัดงวดเป็นการผ่อนชำระ เบื้องต้นมีการตัดกระแสไฟฟ้าและยกหม้อจ่ายไฟฟ้าออกไปแล้ว

น.ส.วรรณา กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกมานาน 10 ปี เมื่อ 7 ปีก่อน เลิกกับอดีตสามี ต้องเลี้ยงลูก 4 คน ตามลำพัง จึงตัดสินใจไปทำงานนวดแผนโบราณที่เมืองพัทยา และสลับไปทำงานต่างประเทศบ้าง ระหว่างนี้ก็ไม่ค่อยมีใครอยู่บ้านหลังนี้ ลูกทั้งหมดย้ายไปอยู่กับตาและยาย จะมีลูกชายคนโต แวะมาดูบ้านบางครั้ง ทั้งบ้านจึงมีแค่หลอดไฟนีออน 2 หลอด ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้าน ปกติจะจ่ายค่าไฟเดือนหนึ่งเพียงแค่หลักร้อย แพงสุดที่เคยจ่ายมา ประมาณ 300 บาท และไม่ได้เข้ามาดูแลที่บ้านนี้มาประมาณ 1 ปี เพราะตนต้องทำงานอยู่ที่เมืองพัทยา และปกติจะให้หลานสาวหรือแม่ตน เป็นธุระไปจ่ายค่าไฟให้ เริ่มมีความผิดปกติตั้งแต่เดือน ม.ค. ค่าไฟสูงถึง 900 บาท

น.ส.เกวลิน แข็งขัน อายุ 23 ปี หลานสาว กล่าวว่า เดือน ก.พ. ไม่มีบิลค่าไฟฟ้ามาที่บ้าน เดือน มี.ค. เป็นบิลที่ไม่มีรายละเอียดส่งมาที่บ้านของป้า พี่สาวของ น.ส.วรรณา ไม่มีการระบุค่าไฟ มีเพียงบอกว่าให้ไปติดต่อที่การไฟฟ้า ป้าตนก็บอกว่าไม่มีค่าไฟ เพราะป้าก็คิดว่าไม่มีคนอยู่บ้าน ถ้ามีก็คงจ่ายไม่ถึงหลักร้อย ผ่านไปถึงวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา มีบิลค่าไฟฟ้ามาอีกครั้ง รวมยอดค้าง 3 เดือน ก.พ. 7,705 มี.ค. 22,512 และ เม.ย. 17,521 รวมแล้ว 47,739 บาท ตอนนั้นป้าเข้าใจผิดว่า 47 บาท เพราะส่วนใหญ่ก็จ่ายแทนให้ในหลักสิบอยู่เป็นประจำ พอไปสแกนจ่ายยอด จึงยืนยันว่า 4 หมื่นกว่า เกือบ 5 หมื่น พวกตนจึงตกใจมาก จึงรีบไปติดต่อการไฟฟ้าทันที

“หลังจากได้รับบิลค่าไฟวันที่ 25 เม.ย. ตนก็ไปที่ สนง.การไฟฟ้า อ.บ้านผือ ทันที เจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ได้รับคำตอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว ที่บริเวณจุดเชื่อมไฟเข้าตัวบ้าน ไม่ใช่ความผิดพลาดของการไฟฟ้า ช่วยได้เพียงให้ผ่อนจ่ายค่าไฟ เพราะมีการใช้ไฟจริง ตนพยายามเจรจาหาทางออกเรื่องนี้ และแจ้งว่าไม่มีพักอาศัย ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ จะไปหาเงินเยอะขนาดนั้นมาจ่ายได้อย่างไร ลำพังหาเงินใช้จ่ายก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว วันที่ 27 เม.ย. ก็ยังเห็นมิเตอร์ไฟอยู่ที่เสาไฟฟ้า แต่เขาตัดไฟไปแล้ว จนวันที่ 29 เม.ย. ก็ไม่เห็นหม้อไฟแล้ว”

น.ส.เกวลิน กล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ค. คุณตา หรือพ่อของ น.ส.วรรณา เสียชีวิต จึงไม่ค่อยมีเวลามาคิดเรื่องนี้ เพราะต้องช่วยกันจัดงานศพ แต่ก็ยังมีบิลค่าไฟของเดือน พ.ค. มาอีกประมาณ 3,262 บาท รวมเบ็ดเสร็จเป็นหนี้ค่าไฟ 51,000 บาท วันนี้พวกตนจึงไปติดต่อที่การไฟฟ้า อ.บ้านผือ อีกครั้ง เขาก็บอกว่าพวกตนต้องจ่ายอยู่ดี ให้ไปร้องเรียนได้เลย หรือถ้าอยากดังก็ให้ไปร้องเรียนนักข่าวได้ พวกตนไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านผือ และศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ก่อนเดินทางมาร้องเรียนนักข่าวทันที เพราะเดือดร้อนมาก พวกตนกลัวถูกดำเนินคดี อยากให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง วอนรัฐบาลใหม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย เพราะค่าไฟแพงมาก ชาวบ้านข้างเคียงก็บ่นเป็นเสียงเดียวกัน มันเดือดร้อนจริงๆ