นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และ สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย ฯลฯ เปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการ และผู้พัฒนานวัตกรรมเข้าร่วมโครงการ แฮก ฟอร์ โกรธ ในการนำเสนอและพัฒนาโซลูชั่น หรือ แพลตฟอร์ม เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ให้สามารถทรานส์ฟอร์มยกระดับการทำงานและการทำธุรกิจ ให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“หลังจากที่ได้ทำการศึกษาและสัมภาษณ์ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทยจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในกลุ่มโรมแรม ที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ กำลังประสบปัญหา และข้อจำกัดที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะขาดระบบหรือเครื่องมือทางเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะเข้ามาช่วย ยกระดับการดำเนินงานของธุรกิจ ประกอบกอบภาพรวมตลาดที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น จนทำให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ยาก กระทบต่อยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า รวมถึง ขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานมีการลาออกบ่อย จึงจะต้องช่วยพัฒนาโซลูชั่นหรือแพลตฟอร์มให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้เกิดการทำงาน และการทำธุรกิจที่มีความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น”
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยว เป็นอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 66 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น มีปัจจจัยส่วนหนึ่งจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียที่จะเดินทางเเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยจำนวน 27.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ถึง 147% ต่อปี ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยแล้วถึง 6.4 ล้านคน เติบโตถึง 1,202% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้รวมให้กับประเทศแล้วกว่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนำเสนอโซลูชั่นหรือแพลตฟอร์ม สมัครได้ที่เว็บไซต์เอ็ตด้า