จากกรณีทหารหนุ่มยศ “ส.ท.” สังกัดค่ายทหาร จ.ชลบุรี รู้จักกับผู้ช่วยพยาบาลสาวรายหนึ่งผ่านแอปหาคู่ จากนั้นก็ไปนอนค้างบ้านสาวที่ จ.บุรีรัมย์ กระทั่งผ่านข้ามคืน มีญาติฝ่ายสาวมาบอกว่าทำผิดประเพณี ก่อนโดนเรียกเงินค่าดอง 1 แสนบาท และทอง 1 บาท แต่เมื่อแต่งผ่านไป 7 วัน กลับถูกเจ้าสาวบอกเลิก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จริงกับญาติฝ่ายหญิงที่ ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พบนางสุภัค (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี แม่ฝ่ายหญิง เล่าว่า ลูกสาวไปรู้จักกันฝ่ายชายที่ไหนตนไม่ทราบ แต่ฝ่ายชายมาหาที่บ้าน ถึงขั้นมาอยู่กินด้วยกันนานกว่า 2 เดือน ญาติจึงถามว่าจะเอาอย่างไร สุดท้ายตกลงจะแต่งงานกัน แม่ไม่ได้ห้ามก่อนจะมีการจัดงานแต่งตามประเพณี การที่ฝ่ายชายบอกว่าลูกสาวเทงานแต่ง หรือหลอกให้แต่งงานไม่ถูกต้อง เพราะได้มีการจัดงานอย่างสมเกียรติ ชาวบ้านมาร่วมงานแต่งเป็นจำนวนมาก มีดนตรี มีฉลอง น่าจะดีกว่างานแต่งอีกหลายคู่ในหมู่บ้าน เท่าที่ทราบฝ่ายชายชอบทำร้ายลูกสาว ซึ่งอาจจะเป็นมูลเหตุที่ทำให้ลูกสาวไม่สนใจ ประกอบกับลูกสาวเป็นคนไม่พูด

ขณะที่ป้าฝ่ายหญิง เล่าเสริมว่า จะเทงานแต่งได้อย่างไร จัดเครื่องเสียงงานแต่งครบ จัดที่พักให้ฝ่ายชายที่เดินทางมาอย่างดี หลังแต่งก็อยู่กินตามปกติ แต่ฝ่ายชายทำงานที่ จ.ชลบุรี ส่วนฝ่ายหญิงทำงานที่กรุงเทพฯ

‘ทหารหนุ่ม’ สุดชํ้าไปนอนบ้านสาวข้ามคืน โดนเรียกค่าดองเกือบ 2 แสน-แต่ง 7 วันกลับโดนเท

“ตอนแรกตกลงค่าสินสอด 1.5 แสนบาท ทอง 2 บาท แต่เจ้าบ่าวขอไปแต่งเดือน 12 จากนั้นได้มีการเลื่อนงานแต่งลงมา จึงลดค่าสินสอดเป็น 1 แสนบาท ทอง 1 บาท หมู 100 โล เหล้า 2 ลัง เบียร์ 2 ลัง น้ำส้ม 2 ลัง ตามประเพณีของคนที่นี่ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นฝ่ายเจ้าสาวเป็นคนจัดการทั้งหมด และมีการมัดจำไว้ 2,000 บาท” ป้าฝ่ายหญิง กล่าว

ป้าฝ่ายหญิง กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่าแปลกใจหลังเสร็จงานแต่งได้ขอสินสอดคืน พวกตนจึงบอกว่ามีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง กับเงินเพียง 1 แสนบาท แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายแล้ว ส่วนกรณีฝ่ายชายจะแจ้งความอะไร ทางเราไม่กลัว เพราะเราทำถูกต้องทุกอย่าง