เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย​ (พท.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์​ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทนทั้ง 7 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แถลงข่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านนัดแรก นายพิธากล่าวว่าวันนี้เป็นวาระการประชุมตามงานทั้ง 7 คณะทำงาน ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับพลังงานและน้ำมันดีเซลมาอธิบายให้ฟังถึงข้อดีข้อเสีย และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผลกระทบกับประชาชน เมื่อรัฐบาลปัจจุบันไม่ต่อสัญญาในการลดภาษีสรรพสามิต วาระที่ 2 คือการกำหนดบทบาทและผลที่ต้องการเห็นจากคณะทำงานทั้ง 7 คณะ ให้สามารถทำงานต่อเนื่อง มีเอกภาพและเกิดผลลัพธ์ต่อประชาชนได้จริง

ส่วนวาระที่ 3 คือการกำหนดคณะทำงานเพิ่ม 5 คณะ ที่ประชาชนให้ความสนใจคือ 1.คณะทำงานเศรษฐกิจและคณะทำงานดิจิทัล 2.คณะทำงานต่อต้านคอร์รัปชั่นต่อต้านส่วย 3.คณะทำงานสาธารณสุขเน้นเรื่องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลที่เกิดประเด็นในสังคมขณะนี้ 4.คณะทำงานเพื่อความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติของสังคมไทย และ 5.คณะทำงานปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ 

“โดยวันที่ 7 มิ.ย. พรรคร่วมทั้ง 8 พรรค จะประชุมหัวหน้าพรรค และเอาข้อสรุปวันนี้ไปประชุม และคณะทำงานนี้ประชุมอีกครั้ง 20 มิ.ย. ที่พรรคก้าวไกล และจะมีคณะทำงานสัญจรลงพื้นที่ในต่างจังหวัดมากขึ้นในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่จะถึงนี้ เช่น สุราก้าวหน้า จ.อุบลราชธานี และฝุ่น PM 2.5 ที่จ.เชียงใหม่” นายพิธา กล่าว

ส่วนนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า พรรค พท. มีข้อเสนอแนะไปยังคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ 5 ข้อ เพื่อเป็นกรอบการทำงานของแต่ละคณะเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ โดยข้อแรกเราเสนอเรื่องความมั่นคงทางการคลัง ทุกนโยบายต้องคิดคำนวณความคุ้มค่าที่ลงทุนไป ต้องมีระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ โดยทำให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ให้รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น แต่ไม่ใช่การเก็บภาษีเพิ่ม การออกแบบนโยบายต้องคิดคำนวณการเจริญทางเศษฐกิจควบคู่ความเท่าเทียมการกระจายรายได้ แต่ละคณะต้องวางแผนทำงานระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในด้านต่างๆ และการเปิดให้ประเทศมีการหารายได้เข้ามาจากการต่างประเทศที่สร้างรายได้ได้ 

ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า เราต้องวางโรดแม็พในการสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน และปัญหาที่เป็นรากเง้าคือที่ดินทำกิน เราต้องกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม เราจะไม่แก้เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา เช่นการทวงคืนผืนป่า คณะทำงานเราจึงเสนอทั้งคนของพรรคและผู้เชี่ยวชาญมาร่วมดำเนินการ

ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 8 พรรคเห็นตรงกันว่าเป็นวาระเร่งด่วนที่ควรทำให้เร็วที่สุดหลังการเปลี่ยนผ่าน รวมถึงค่าพลังงานทั้งน้ำมันและค่าไฟฟ้า ทั้ง 8 พรรคจะพิจารณาอย่างรอบคอบและให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุดให้ประชาชนได้รับราคาที่เป็นธรรม และคณะความเท่าเทียมด้านเศรษฐกิจและสังคม เราเห็นตรงกันว่าจะไม่ให้ความสำคัญแค่รัฐสวัสดิการเท่านั้น แต่ให้เศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างเท่าเทียม

เมื่อถามถึงกรณีโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการโอนหุ้นไอทีวี นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่การขาย แต่โอนให้ทายาทไปเมื่อปลายเดือน พ.ค. 66 ในอดีตตนมั่นใจในข้อกฎหมายและหลักฐาน แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจหรือการเมือง ตนจึงตัดสินใจโอนหุ้นให้ทายาท รวมถึงการโอนหุ้นดังกล่าว เพื่อให้การตั้งรัฐบาลดำเนินการได้สำเร็จ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมของทั้ง 8 พรรคร่วมเสร็จสิ้น นายพิธาได้ลงมาซื้อเครื่องดื่มช็อกโกแลตมินต์เมนูยอดฮิตตามคำแนะนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. รวมทั้งซื้อเมนูกาแฟส้ม ซึ่งเป็นเมนูโปรดของนายพิธาที่ร้าน Think lab ของพรรค พท. โดยนายพิธาได้ชิมเมนูช็อกมินต์ก่อน โดยระบุว่า “ให้เกียรติเจ้าบ้านก่อน” หลังจากชิมแล้วนายพิธา ระบุว่า “รสชาติดีเกินร้อย” จากนั้นนายพิธาได้ชิมกาแฟส้มโดยระบุว่า “รสชาติดีเหมือนที่ร้าน Sol bar ของพรรคก้าวไกลเลยทั้งนี้ เครื่องดื่มทั้งสองเมนูมีรสชาติที่แตกต่างกัน แต่เมื่อดื่มพร้อมกันแล้วก็กลมกล่อม รวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้”

นายพิธา กล่าวว่า ในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ ที่จะมีการประชุม 8 พรรคร่วมที่พรรคก้าวไกล ตนจะชวน น.ส.แพทองธาร ไปชิมเมนูช็อกมินต์และกาแฟส้มที่ร้าน Sol bar ของพรรคก้าวไกลด้วย