เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ, พ.ต.อ.สามารถ พันธ์ล้วน พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.ภ.2และชุดสืบสวน บช.น. ร่วมกันจับกุมนาย สุรชัย หรือ อาฟู่ แซ่จาง อายุ 27 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 395/2565 ลงวันที่13 ส.ค. 65 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงินฯ จับกุมได้ที่บริเวณหน้าหอพักคนงาน บริเวณ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามขยายผล จนสามารถออกหมายจับสมาชิกกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง รวม 6 ราย จนพบข้อมูลสำคัญคือ นายสุรชัย แซ่จาง ล่ามภาษาไทย-จีน ซึ่งเป็นสนิทบอสใหญ่มังกรจีน และทำหน้าที่แปลเทคนิค ถ่ายทอดจากบอส ขั้นตอนการเรียนรู้ การพูดจูงใจและแรงบันดาลใจ ในการหลอกเหยื่อ ให้กับลูกจ้างพนักงานในแถวที่ 1-3 อย่างเป็นระบบ สร้างความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาการสืบสวนกว่า 1 ปี

จากการสืบสวนพบว่าแผนประทุษกรรมแก๊งสแกมเมอร์ ใช้โปรแกรมปลอมสร้างแพลตฟอร์มปลอมที่ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” เพื่อหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ จากนั้นนายหยู่เกอ บอสใหญ่ชาวจีน และให้นายสุรชัย และนายสุรจิต เป็นล่ามแปลถอดคำพูดและวิธีการสอนให้พนักงานที่มาทำงาน สร้างโปรไฟล์ หนุ่มหล่อ สาวสวย ทางแอป ผ่านทางกูเกิ้ลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter จำนวน 10-40 บัญชี และ Instragram จำนวน 1 บัญชี และ facebook จำนวน 1 บัญชี โดยเฉพาะการสมัครแอปฯทวิตเตอร์ จะมีระบบโปรแกรมมาริโอ้ สุ่มเหยื่อเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จักตีสนิท เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามกลับ จะมีข้อความทักทายตอบกลับอัตโนมัติ เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนเหยื่อเริ่มพูดคุย มีการสนทนาโต้ตอบ

จากนั้นจะสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ อายุ งาน ประเทศ เบอร์โทร วอทแอพหากเริ่มมีความคุ้นเคย จะถามสภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายของเหยื่อ จนกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์ สามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้ในการลงทุน และจะให้ดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม bitkub, M.omxmax, Binace และ Letraders พร้อมทั้งสอนวิธีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลคริปโตเป็น USDT, LTC, GLOE, BTC, ETH, WPE แนะนำเชิญชวนให้ลงทุนโอนเงินดอลล่าร์ และจะให้เห็นว่าลงทุนแล้วได้กำไร ถอนเงินได้จริง จากนั้นให้เหยื่อเปลี่ยนให้เป็นเงิน USDT และจะให้โอนเงิน เข้าไปใน แพลตฟอร์ม ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” ที่สร้างขึ้นปลอม เพื่อให้เหยื่อลงทุนเพิ่ม โดยนาย “หยู่เกอ” จะทำการหลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอมแสดงกราฟขาขึ้น ให้เหยื่อดูเพื่อแสดงยอดเงินกำไรโชว์เพื่อให้ลงทุนเพิ่ม หากจะถอนเงินที่ได้จากผลกำไร ทางแก็งมิจฉาชีพนี้ จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี หากไม่ชำระภายในกำหนด ก็ไม่สามารถจะถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเป็นการหลอกซ้ำไปซ้ำมาจนเหยื่อสูญเงิน

สอบสวนเบื้องต้นนายสรุชัย ให้การว่า ประมาณปี 64 ผู้ต้องหาพร้อมกับนายสุรจิต (น้องชาย) ได้สมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อไปเป็นล่ามแปลภาษา จีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 3-4 หมื่น บาท เมื่อไปถึงกัมพูชา ปรากฎว่าได้ไปทำงานที่เกาะกง แทน โดยได้ทำหน้าที่ล่ามแปลคำพูดของหัวหน้าชาวจีน ที่พนักงานเรียกกันว่าหยู่เกอ ส่วนคนไทยที่ไปทำงานนั้นเป็น คอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโตฯ ผ่านแอปที่นายหยู่เกอ สร้างแพลตฟอร์มปลอมขึ้นมา หลังจากทำงานได้ 6 เดือนก็หนีกลับมาประเทศไทย สร้างเนื้อสร้างตัว เปิดกิจการร้านเหล้าที่ภูมิลำเนา จ.เชียงราย กระทั่งถูกจับกุมขณะไปทำธุระในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.