จากกรณี “น้องเตย” เด็กหญิงวัย 4 ขวบ เลี้ยงดูคุณยายตาบอด ที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้เปิดเผยขึ้นมา จากการที่คุณครูไปเยี่ยมน้องเตยที่บ้าน พบความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น น้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยยายที่ตาบอด ซึ่งเมื่อเป็นข่าวได้มีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท และมีผู้ใจบุญเสนอจะช่วยเหลือส่งเสียน้องเตยเรียนจนจบปริญญาตรี แต่ก็เงียบหายไป ก่อนสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ประกาศกลางรายการ ขออุปการะน้องเตย และจะส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบปริญญาเอกนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายศักดิ์สยาม ทุรารัมย์ อายุ 33 ปี บิดาของน้องเตย เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนเองทำงานอยู่ในบริษัทผลิตยางรถยนต์แห่งหนึ่ง นิคมอมตะซิตี้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยภรรยาแม่ของน้องเตย ก็ทำงานและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน กรณีที่มีการเสนอข่าวออกไปว่า ตนเองไม่เคยกลับไปเยี่ยมลูกสาวและมารดาเลย ซึ่งความจริงแล้ว ตนเองและแม่ของน้องเตย เพิ่งเดินทางกลับไปหาน้องเตย เมื่อเดือน พ.ค. 66 ในช่วงเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องการส่งเงิน ตนเองยอมรับว่าไม่ได้ส่งเงินไปช่วยเหลือเลย เพราะมีภาระทั้งค่าผ่อนรถ ค่าเช่าบ้าน จึงไม่พอต่อการส่งไปช่วยเหลือ แต่ก็เตรียมจะส่งเงินไปช่วยเหลือในเดือน ต.ค. นี้ หลังผ่อนรถหมดแล้ว ได้เตรียมเดินทางกลับไปเยี่ยมน้องเตยกับมารดา ในเดือน ส.ค. นี้ ในช่วงวันแม่ เพราะเป็นวันหยุดยาว ที่ผ่านมามารดาของตนเองจะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐไว้ใช้จ่ายกันสองคน เป็นรายได้ทางเดียว

‘กรรชัย’ฟาดหน่วยงานช่วย ‘น้องเตย’ เพิ่งวิ่งแจ้นแถมปัดคนอยากช่วยกลัวเสียหน้า?

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยต่อว่า ตนเองมีบุตรสองคน อีกคนได้ให้ยายเป็นคนเลี้ยง ส่วนน้องเตย ให้ย่าเป็นคนช่วยเลี้ยงตั้งแต่อายุ 8 เดือน จนถึงปัจจุบัน เพราะตนเองและภรรยาต้องเดินทางมาทำงานที่ จ.ระยอง ดีใจที่ลูกสาวได้รับความช่วยเหลือ พร้อมทั้งขอขอบคุณ คุณสรยุทธ สุทัศนจินดา พิธีกรชื่อดัง ที่เสนอตัวขอเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ในการส่งน้องเตยเรียนเท่าที่เรียนไหว รวมถึงขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือบุตรสาวและมารดา

“ตนเองกับภรรยาขอสัญญาว่า จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยอดเงินบริจาคทั้งหมด แค่เห็นมารดาและลูกสาวมีคนช่วยเหลือแค่นึ้ก็ดีใจแล้ว โดยเฉพาะน้องเตยที่จะได้เรียนสูงๆ ส่วนตนเองกับภรรยาก็จะขอทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง ต่อไป จึงวอนขอให้สังคมเข้าใจด้วย เพราะรายได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่สามารถส่งเงินไปให้น้องเตยและแม่ได้ ตนเองและภรรยา ก็เหมือนกับพ่อแม่ทุกคน ที่ต้องรักลูกและเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว แต่ด้วยความยากจน เงินเดือนที่ได้ก็แค่มีใช้เพียงเดือนชนเดือนเท่านั้น จึงขอให้สังคมเข้าใจด้วย” พ่อน้องเตย กล่าว.