สำหรับความคืบหน้าท่าทีพรรคการเมืองเรื่องที่ประชุมรัฐสภามีนัดลงมติ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 ปรับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบและให้มี ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนนั้น

เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินการแก้รัฐธรรมนูญวาระที่ 3 น่าจะผ่านไปได้ยกเว้นมีเงื่อนไขใหม่พร้อมยืนยันประเด็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบไม่ใช่การถอยหลังเข้าคลองเพราะเป็นการเดินกลับไปที่เดิมของรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และมั่นใจหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ผ่านจะช่วยลดอุณหภูมิการเมืองเปรียบเสมือนเปิดให้อุณหภูมิของกาต้มน้ำทางการเมืองมีช่องระบายออกซึ่งเป็นผลดีกับทุกฝ่ายและเป็นผลดีกับประชาธิปไตยระยะยาว

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรค ชทพ.ในการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3ว่าการเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบสอดคล้องกับแนวทางรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นสิ่งที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ริเริ่มและส่วนตัวตนสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดและสานต่องานที่บิดาของตนริเริ่มไว้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า การลงมติแก้รัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. จุดยืนของพรรค ภท. คือแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ประชาชนไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคการเมืองหรือนักการเมือง ทั้งนี้ ส.ส.พรรค ภท. มีวุฒิภาวะที่จะตัดสินใจได้ว่า ลงมติแบบไหน เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญบังคับกันไม่ได้