จากกรณี เสือโคร่ง จากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เขตรอยต่อพื้นที่มรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ออกจากป่ามาล่าเหยื่อ กัดควายชาวบ้านตาย 2 ตัวในรอบ 2 สัปดาห์ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค. พบควายแม่ลูกอ่อน มีร่องรอยถูกเสือโคร่งกัดเข้าที่ขาหลังและก้นจนตาย ในพื้นที่ป่าตลาดวัว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี จ.นครราชสีมา ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา พบควายเพศเมียตัวเต็มวัยท้องแก่ ถูกกัดเข้าที่ขาหลังและสะโพก จนตาย ในพื้นที่ป่าคลองนกโกโร่ ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากแหล่งชุมชนประมาณ 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีควายท้องแก่ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยถูกเสือตะปบเข้าที่ขาหลัง เป็นแผลเหวอะหวะอีกตัวหนึ่งด้วยนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ นายสมศักดิ์ ศรีสันเทียะ เจ้าของควายที่ถูกเสือกัด และกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ลงพื้นที่ตรวจสอบและชี้แจงแนวทางการดำเนินการของอุทยานแห่งชาติทับลาน กรณีที่พบว่าเสือโคร่งออกไปกัดควาย นอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์บริเวณขอบป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎร ที่ขอเข้าทำกินตามโครงการ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดยในเบื้องต้นยังไม่พบเห็นเสือโคร่งกลับเข้ามาในบริเวณคอกควายดังกล่าวซ้ำอีกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน สั่งการให้จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 3 ชุด เฝ้าระวังและผลักดันสัตว์ป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พร้อมติดตั้งกล้องดักถ่ายอัตโนมัติ ในระบบ NCAPS และ Camera Trap เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสัตว์ป่าที่ออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันก็ได้ชี้แจงถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามหลักวิชาการและวางมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ป่ารวมถึงได้มีประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตป่าเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น