เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง และคณะเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างปรับปรุงสนามกีฬาเทศบาล ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง งบประมาณ 4,990,000 บาท โดยมีเทศบาล ต.คลองปาง เป็นเจ้าของโครงการ

ภายหลังจากดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นเมื่อช่วงปี 2563 ต่อมา ป.ป.ช.ตรัง ได้รับเรื่องร้องเรียนดีว่าส่อเค้ามีความไม่โปร่งใส และมีการทุจริตเกิดขึ้น จนนำมาสู่การตรวจสอบและแสวงหาพยานหลักฐานอย่างจริงจัง จนพบข้อสังเกตว่า สภาพของการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกต้องตามแบบแปลนที่กำหนดไว้ในบีโอคิว (BOQ) หรือหลักวิศวกรรม เช่น การใช้ดินถมสนาม การบดอัด และการปลูกหญ้า เป็นต้น รวมไปถึงในส่วนการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น หญ้านวลน้อย ที่ใช้ปูบนผิวสนามกีฬา ระบุปริมาณงาน จำนวน 20,000 ตร.ม. แต่กลับคิดราคาสูงถึงตารางเมตรละ 60 บาท โดยที่ในขณะก่อสร้างหญ้านวลน้อย ราคาของตลาดจริงๆ อยู่ที่ ตร.ม.ละเพียงแค่ 15-20 บาทเท่านั้น ซึ่งความไม่โปร่งใสเหล่านี้ มีมูลความผิด แต่ทางเทศบาลฯ ได้มีการตรวจรับและส่งมอบงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนนำมาสู่การไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรัง

รายงานล่าสุดจากการลงพื้นที่กลับพบว่าสนามกีฬาฯ ดังกล่าว กลับยังถูกทิ้งร้าง มีหญ้าและวัชพืช ขึ้นสูงปกคลุมทั่วทั้งสนาม อุปกรณ์กีฬาเช่นประตูฟุตบาลชำรุดเสียหาย พื้นหญ้ามีความเสียหายไม่เรียบ เป็นแอ่งเป็นหลุม และมีน้ำขัง เหล็กกั้นรอบสนามขึ้นสนิมและถูกวัชพืชปกคลุม โดยตั้งแต่ดำเนินการก่อสร้างมาจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว งบประมาณสูงถึง 4.9 ล้านบาท แต่กลับยังไม่มีชาวบ้านหรือผู้ใดได้ใช้ประโยชน์สนามกีฬาฯ แห่งนี้เลย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 66 ทาง ป.ป.ช.ตรัง ได้มีการจัดประชุมในเวทีคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบของ จ.ตรัง ครั้งที่ 2/2566 โดยได้มีการเชิญทางเทศบาล ต.คลองปาง มาพูดคุยถึงเรื่องนี้ด้วย ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้ชี้แจงต่อในที่ประชุมว่า ได้มีการแก้ไขปรับปรุงสนามกีฬาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ประชาชนสนามเข้าไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว แต่ผลความจริงที่ปรากฏในวันนี้กลับยังรกร้าง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นความย้อนแย้งที่ขัดกับความเป็นจริงอย่างมาก

นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับประเด็นนี้ ในส่วนของคดีความที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียน และแจ้งข้อกล่าวหา หรือแจ้งความร้องทุกข์คดีผ่านกับทาง ป.ป.ช.ตรัง ขณะนี้ได้อยู่ในขบวนการไต่สวนของทาง ป.ป.ช.ตรังแล้ว และได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นที่จะต้องนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้พิจารณาผลไต่สวน ว่าจะมีการชี้มูลความผิดใคร หรือไม่อย่างไรต่อไป

“ในส่วนเรื่องของการใช้งานปรากฏว่า ได้มีการประชุมติดตามในการก่อสร้างดังกล่าวของเทศบาล ต.คลองปาง ได้แจ้งในที่ประชุมว่า ได้ดำเนินการให้ผู้รับเหมา หรือคู่สัญญา มาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว แต่ผลปรากฏว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบในวันนี้ ในสภาพปัญหาของสนามกีฬา ก็ยังไม่พร้อมใช้งาน และยังไม่เรียบร้อย ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ 4.9 ล้านบาท ที่ประชาชนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า งบเท่านั้น ทำได้เท่านี้หรือ ทำไมถึงไม่ดำเนินการให้ได้มาตรฐานมากกว่านี้ เพื่อให้เด็กและเยาวชน นักกีฬา หรือประชาชน สามารถไปใช้พื้นที่สนามกีฬาดังกล่าวทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับราคาหรืองบประมาณเทศบาล ต.คลองปางได้ตั้งไว้” นายยุทธนา กล่าวทิ้งท้าย

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.คลองปาง รายหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า สาเหตุที่ทางเทศบาลฯ ยังคงนิ่งเฉยไม่ได้ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงหรือดำเนินการใดๆ กับสนามกีฬาแห่งนี้ เนื่องจากรอให้ผลของการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ออกมาก่อนว่าจะมีมติลงเอยยังไง

ซึ่งในเรื่องนี้ผลสรุปสุดท้ายจะคลี่คลายลงอย่างไร หรือจะมีใครต้องออกมารับผิดชอบ หรือรับผิด กับการก่อสร้างที่เกิดขึ้น กับงบประมาณที่ใช้ไปสูงถึง 4.9 ล้านบาท จะมีการทุจริตเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็คงจะต้องรอดูกันต่อไปว่า ทาง ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดหรือไม่อย่างไรภายในปีนี้ และทำอย่างไรชาวบ้านถึงจะได้ประโยชน์กับสนามแห่งนี้ได้อย่างมากที่สุด.