เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ ว่าทาง กกต. ตรวจสอบรายงานจากความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร และ 3 แหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย เมื่อ กกต. ได้พิจารณาแล้ว จึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน โดยสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.-24 มิ.ย. 66 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

นายแสวง กล่าวต่อว่า กกต. ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวน ตามมาตรา 138 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หมายความว่า หลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต. จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้ที่ กกต. ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียน อาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นในจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน ที่ได้รับการรับรองนี้ มีอยู่ 318 คน ที่เป็น ส.ส. ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนเลย อีก 82 คน มีเรื่องร้องเรียน เพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ปรากฏในเอกสารหลุดเมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะมีคนร้องเข้ามาเพิ่ม

ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน พรรคเพื่อไทย 29 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และใหม่ พรรคละ 1 คน

เมื่อถามว่าหลังประกาศรับรองแล้ว กกต. จะดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงาน ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่ามีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องยื่นเรื่องก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง การสอบสวนของ กกต. จะต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ถ้าเร็วก็เร็ว โดยลักษณะงานที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง