เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กเรียนเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์ แม้แต่เสื้อผ้ายังไม่มีไปเรียน ทั้งที่มหาวิทยาลัยจะเปิดในวันที่ 3 ก.ค. นี้ จึงได้เดินทางไปพบ น.ส.พาณิภัค หรือน้องช่อฟ้า เจิมจำนง อายุ 19 ปี อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านพักข้าราชการตำรวจใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกำลังช่วย น.ส.พัชริยา พงษ์มี อายุ 43 ปี แม่ทำอาหารกล่องไปขายหน้าปากซอย เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว

โดย น.ส.พาณิภัค เล่าว่า หลังจากจบชั้น ม.6 ก็สอบติดมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี แต่ในตอนนี้ตนยังไม่รู้ชะตากรรม เพราะครอบครัวครัวยากจน พ่อเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ สว.ฝอ.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แม่มีอาชีพเป็นแม่ค้า สาเหตุที่ครอบครัวต้องลำบาก เพราะพ่อถูกหักเงินเดือนจนแทบไม่เหลือเลี้ยงครอบครัว เงินเดือนถูกหักเพื่อใช้หนี้ค้ำประกันให้กับเพื่อนตำรวจ ยอดเงินกว่า 2 ล้านบาท ทำให้พ่อเหลือเงินติดบัญชีเพียง 70 บาทเท่านั้น แต่แม่ก็ไม่ยอมหยุดนิ่งทำอาหารกล่องขาย ช่วยหารายได้มาจุนเจือครอบครัว โดยทุกวันจะตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 ผัดเส้นจันท์ใส่กล่องขาย

“หนูลำบากมาตั้งแต่เรียนชั้น ม.3 ไปเรียนที่โรงเรียนในกรุงเทพฯ โชคดีมีผู้ใหญ่ใจดีให้อาศัยอยู่บ้านพักฟรีจนเรียนจบ โดยแม่จะส่งเงินให้อาทิตย์ละ 500 บาท ต้องเก็บอดออมไว้ชื้ออุปกรณ์การเรียนเพื่อเติม” น.ส.พาณิภัค กล่าว

แม่ของ น.ส.พาณิภัค กล่าวว่า ครอบครัวต้องสู้เพื่อลูก ลำบากแค่ไหนก็ยอม ต้องสู้ส่งลูกให้เรียนให้จบ เพื่อจะได้ช่วยกันเลี้ยงน้องชายคนเล็กให้เรียนจบตามกันไป ทุกวันนี้เงินเดือนพ่อไม่เหลือที่จะดูแลครอบครัวได้

ด้าน พ.ต.ท.วิริยะ ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า รู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถดูแลลูกเมียให้สมบูรณ์ได้ แต่ก็ไม่โทษใครเพราะเป็นการยินยอมค้ำประกันให้กัน แค่ตนโชคร้ายที่คู่สัญญากู้เงินมาแล้วลาออกไป จนต้องรับภาระหนี้แทนถึง 2 ล้านบาท แต่ละเดือนถูกหักเงินจนบัญชีเหลือเงินแค่ 70 บาท เคยคิดท้อดื่มเหล้าทุกวัน จนมาเห็นลูกๆ จึงได้สติตั้งหลักใหม่ รับจ้างขึ้นเวรบ้าง มีใครจ้างทำอะไรก็รับจ้าง ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวแม้น้อยนิด ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร เป็นห่วงลูกมาก ตอนนี้ยังไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ไปเรียนเลย.