“หมอปิ่น” หทัยรัตน์ ณ เชียงใหม่ คุณหมอสาวสวยจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลดอยอินทนนท์ ผู้พิสมัยการชกมวย และเป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียลในฉายา “คุณหมอนักมวยหน้าหวาน” จากการทำหน้าที่เป็นแพทย์สนามของเวทีมวยในภาคเหนือ ทนกลิ่นสาบนวมไม่ไหว เตรียมหวนคืนสังเวียนขึ้นชกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
โดย “หมอปิ่น” จะขึ้นชกในชื่อ “ดอกไม้งาม บุญลานนามวยไทย” ดวลกับ “แชมป์มวยตู้เมืองล้านนา” กลิ่นผกา ป.ไทสงค์ เจ้าของเหรียญทองกีฬาแห่งชาติกำแพงเพชรเกมส์ ในกติกาชก 5 ยก ยกละ 2 นาที พัก 2 นาที ในศึกมวยไทยวิถีถิ่นไทย จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ตลาดล้านเมือง จ.เชียงราย เสาร์ที่ 15 ก.ค. นี้
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ สอบถามถึงความพร้อมในการหวนคืนสังเวียนของ “หมอปิ่น” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้ชื่อชกมวยว่า “ปิ่นหทัย เอกบาร์เบอร์” โดยเธอเผยว่า ตัวเองรักการชกมวย และอยากขึ้นชกมาตลอดอยู่แล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่มีโอกาสเนื่องจากติดภารกิจการทำหน้าที่เป็นหมอ ทั้งที่โรงพยาบาลและทำหน้าที่แพทย์สนาม แต่หลังได้รับการติดต่อให้ขึ้นชกไฟต์นี้ก็รู้สึกดีใจ เนื่องจากต้องการให้การชกของเธอเป็นที่จดจำของแฟนมวยทั่วไปว่าถึงหน้าตาและผิวพรรณจะดูไม่เหมือนนักมวย แต่เธอก็พร้อมจะสู้เต็มที่
ส่วนการหวนคืนสังเวียนครั้งนี้ มีหลายคนไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่ามีหน้าที่การงานที่ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องมาเจ็บตัวกับการขึ้นชกอีก โดยเฉพาะคุณพ่อ พรมมินทร์ จุมปาจม ที่คัดค้าน แต่สุดท้ายก็ทนลูกอ้อนของลูกสาวสุดที่รักไม่ไหว จึงอนุญาตให้ “หมอปิ่น” กลับขึ้นสังดวียนอีกครั้ง โดยถึงตอนนี้เธอเริ่มซ้อมได้ราว 1 สัปดาห์แล้ว
ตารางการซ้อมก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อออกไปวิ่ง และกลับมาซ้อม หลังจากนั้นต้องอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเข้างานตอน 8 โมงเช้า ถึงตอนเย็นก็ต้องกลับมาซ้อมอีก เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงที่กำลังฟิตซ้อมอย่างหนัก ทำเอาระบมไปทั้งตัว อย่างไรก็ตาม “หมอปิ่น” บอกว่าเธอโชคดีที่ไม่ต้องลดน้ำหนัก เพราะปกติน้ำหนักก็อยู่ที่ 45 กิโลกรัมเท่ากับพิกัดที่กำหนดไว้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องของคู่ชก “ดอกไม้งาม” ระบุว่าไม่เคยเห็นฝีมือ และยังไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อน แต่ได้ข่าวว่าเป็นมวยดีมีฝีมือ ที่สำคัญเป็นนักมวยที่ยังขึ้นสังเวียนต่อเนื่อง ดังนั้นคงไม่ใช่งานง่าย แต่อย่างไรก็ตาม เธอยังคงมั่นใจและพร้อมสู้เต็มที่ นอกจากนี้ “หมอปิ่น” ยังเผยด้วยว่า ตอนนี้เธอมีคิวที่จะบินไปโชว์ฝีมือการชกด้วยกติกามวยไทยที่ประเทศจีน ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้นไฟต์นี้ต้องโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนบินไปชกที่แดนมังกร
และสุดท้าย “หมอปิ่น” เผยว่า นอกจากเธอจะสวมบทบาทนักมวยขึ้นชกในรายการดังกล่าวแล้ว เมื่อชกเสร็จเธอยังต้องลงเวทีมาสวมชุดแพทย์ ทำหน้าที่แพทย์สนามต่อด้วย ซึ่งเธอเชื่อว่าในโลกนี้คงไม่เคยมีใครที่ขึ้นชกมวย และเป็นแพทย์สนามไปด้วยในเวลาเดียวกันแบบที่เธอกำลังจะทำ ซึ่งคงต้องภาวนาว่าขออย่าให้หน้าสวย ๆ ของ “ดอกไม้งาม” เกิดบาดแผล มิฉะนั้นเธออาจจะต้องเย็บตัวเอง… ก็เป็นได้
