หลังจาก สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติเอกฉันท์ ไม่อนุมัติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เหตุ หวั่น สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ลงโทษ แบนบอลไทย

จากนั้น พล.ต.อ.สมยศ ให้สัมภาษณ์เรื่องต่างๆ รวมทั้งค่าลิขสิทธิ์บอลไทย ที่มีข่าวว่า มีบริษัทยื่นประมูลแค่ 50 ล้านบาทต่อปี ทั้งที่ในอดีต เคยมีมูลค่าทะลุ 1,000 ล้านบาท ต่อปี

บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ฟุตบอลไทยไม่ได้มีมูลค่าเลวร้ายขนาดนั้น(50 ล้านบาท) แต่ตลาดฟุตบอลไทยโชคร้ายเพราะมีไม่กี่เจ้าที่มีศักยภาพถ่ายทอดสดหรือทำธุรกิจนี้ได้ ตนจึงบอกว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นพื้นที่ของความขัดแย้ง การต่อสู้แย่งชิงไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขันฟุตบอล ผลประโยชน์ส่วนตัว หรือผลประโยชน์การเมืองและการค้า

“ซึ่งทุกอย่างมันอยู่ในอกผม ทำให้ผมทำงานไม่ได้”

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่ได้ล้มเหลวในการหาคนมาบริหารลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด มีจำนวนเงินแล้ว หลายสโมสรก็ทราบ แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ดีลล่ม

“ใครอยากรู้เหตุผลก็ไปสืบเอาเอง ผมไม่อยากพูด เพราะพูดไปอาจโดนฟ้องร้องก็ได้” พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อด้วยว่า “สมาคมฯ​ ทำเต็มที่ สมาคมฯ ทำแล้วเสร็จแล้ว และได้เงินมากกว่าปีที่ผ่านมาๆ แต่มันไปไม่สุดซอยด้วยเหตุผลภายนอก ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมเขาได้ ที่บอกว่าค่าลิขสิทธิ์เหลือแค่ 50 ล้าน แค่เกม”