1 ก.ค. 2566 ครบรอบ 48 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – จีน ที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมาตั้งแต่พ.ศ.2518 ด้วยสายสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานของชาวไทย และจีน ยังส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยด้วย ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมามี สภาวัฒนธรรมไทย–จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมรัฐบาลจีน ตลอดจนหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ในประเทศจีน เพื่อช่วยประสานนักลงทุนชาวไทยไปดำเนินการประกอบธุรกิจในจีน
สุเทพ รุ่งวิทยนันท์ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ เปิดมุมมองเรื่องนี้ว่า บทบาทของสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ จะทำหน้าที่ในการให้ความร่วมมือกับทางจีนด้านการลงทุน การค้า การท่องเที่ยว การกีฬา อาหาร นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น สะพานเชื่อมรัฐบาลจีน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศจีน สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่สนใจจะไปประกอบธุรกิจในจีน และสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ ยังทำหน้าที่ในการเชิญชวนนักลงทุนชาวจีนเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยด้วย
จาก ข้อมูลล่าสุดพบว่ามีบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนมาเปิดโรงงานในประเทศไทยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ไม่ต่ำกว่า 10 บริษัท นั่นทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียไปแล้ว
ขณะเดียวกันนักลงทุนชาวไทยที่ไปเปิดธุรกิจที่จีนนั้น สุเทพ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย–จีนฯ กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจประเภทร้านอาหารไทย และประเภทการดูแลด้านสุขภาพ “เฮลท์แคร์” แต่เมื่อเกือบ 2 ปีมานี้ พบว่าชาวจีนให้ความสนใจ ยาสมุนไพร ไทยด้วยซึ่งทางสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ ได้ประสานให้นักลงทุนชาวไทยไปประกอบธุรกิจด้านยาสมุนไพรไทยจีนแล้ว พบว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการลดไขมัน ลดความดัน แก้ปวดท้อง ท้องอืด รวมไปถึง ยาดมของไทย ก็ได้รับความนิยมด้วย
เดินหน้าส่งเสริมภาคธุรกิจสองประเทศ
“การที่นักลงทุนชาวจีนมาเปิดโรงงานผลิตรถไฟฟ้าในพื้นที่อีอีซี ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในไทยจำนวนมาก ทั้งยังทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น และที่ตามมาก็คือการเข้ามาซื้อ อสังหาริมทรัพย์ เพื่ออยู่อาศัยในจังหวัดพื้นที่อีอีซี เนื่องจากต้องคอยมาติดตามงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแน่นอน” นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า จากการที่ตนประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ด้วย ยืนยันได้ว่าปัจจุบันมีชาวจีนจำนวนมากมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เนื่องจากในประเทศจีน ชาวจีนไม่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ได้ จุดนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ชาวจีนสนใจที่จะมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ในประเทศไทย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหัวเมืองหลัก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี และ ภูเก็ต นอกจากนี้ชาวจีนยังมองด้วยว่า อสังหาริมทรัพย์ของไทยมีมาตรฐาน เทียบเท่าในระดับโลกได้ ที่สำคัญชาวจีนชอบมาท่องเที่ยวในไทย เพราะการเดินทางไม่ไกล และอีกเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็คือ
ความสัมพันธ์กันระหว่างสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานในฐานะบ้านพี่เมืองน้องกันความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานของไทย และจีน ได้แสดงให้เห็นแล้ว จากคำยืนยันของ สุเทพ รุ่งวิทยนันท์ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ พร้อมย้ำด้วยว่า จะช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในไทยเติบโตได้มากขึ้น และเมื่อการขับเคลื่อนธุรกิจดี ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีแล้ว แน่นอนว่าความเป็นอยู่ของประชาชนย่อมดีขึ้นด้วยอย่างแน่นอน.