นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถึงการปรับแผนการเดินรถไฟฟ้าสายสีแด’ เนื่องจากขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งมีเสียงสะท้อนจากผู้โดยสารที่มาใช้บริการว่ารอขบวนรถค่อนข้างนาน โดยได้ข้อสรุปว่าตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 66 รฟฟท. จะปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการเดินรถให้เร็วขึ้น ทั้งสายเหนือ (ธานีรัถยา) ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต และสายตะวันตก (นครวิถี) ช่วงสถานีกลางฯ-ตลิ่งชัน เพื่อลดการรอคอยขบวนรถนาน และดึงดูดผู้โดยสารให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้จะทำให้ต้องใช้ขบวนรถไฟในการให้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิม 8 ขบวน เป็น 10 ขบวน 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการนั้น ช่วงสถานีกลางฯ-รังสิต ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak) เวลา 07.00-09.30 น และเวลา 17.00-19.30 น. จะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 12 นาทีต่อขบวน เป็น 10 นาทีต่อขบวน และในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วน (Off Peak) จะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 20 นาทีต่อขบวน เป็น 15 นาทีต่อขบวน ขณะที่ช่วงสถานีกลางฯ-ตลิ่งชัน ในช่วง Peak ให้บริการความถี่เท่าเดิมที่ 20 นาทีต่อขบวน แต่จะปรับเพิ่มความถี่ในช่วง Off Peak จากเดิม 30 นาทีต่อขบวน เป็น 20 นาทีต่อขบวน ทั้งนี้การปรับเพิ่มความถี่ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟทางไกลในภาพรวม ยังคงให้บริการเดินรถตามเวลาปกติ

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงเฉลี่ยวันละ 2.3-2.4 หมื่นคน หากเป็นวันศุกร์ผู้โดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นคน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้โดยสารกว่า 2.6 หมื่นคน สูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยสถานีกลางฯ ยังคงเป็นสถานีที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการสูงที่สุด ประมาณวันละ 8 พันคน รองลงมาคือ สถานีดอนเมือง ประมาณวันละ 4 พันคน และสถานีรังสิต ประมาณวันละ 3 พันคน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณผู้โดยสารจะยังไม่ถึงตามตัวเลขผลการศึกษาที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นคน แต่ขณะนี้ถือว่าผู้โดยสารเป็นไปตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้แล้วว่า จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งปี 65 ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 1.6 หมื่นคนต่อวัน ส่วนในปี 67 ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้น 10% เช่นกัน 

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ รฟฟท. ได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในทุกสถานี อาทิ ที่นั่งพักคอย และป้ายบอกทาง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งนี้ในส่วนของสถานีหลักสี่ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้แล้ว โดยเฉพาะทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีหลักสี่ ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีแดงก็พร้อมรองรับ และคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการที่สถานีหลักสี่เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารสายสีแดงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) ที่เชื่อมต่อกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย และตรวจรับงาน คาดว่าจะเปิดบริการกลางเดือน ส.ค. นี้