กรณีตำรวจ บช.สอท.เปิดปฎิบัติการทลายเครือข่ายสวมรอยธนาคารกสิกรไทยส่งข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์ปลอมหลอกลวงเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือ ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์ 4 คัน ที่มีการติดตั้งเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ซึ่งประกอบไปด้วย แบตเตอรี่(battery) สายอากาศ (Antenna) เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (Laptop) และ IMSI-Catcher หรือ Stingray เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

บิ๊กเด่นสั่งลุย!!! ตร.ไซเบอร์ ทลายแก๊งสวมรอยแบงก์ดังส่งSMSดูดเงินเหยื่อ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ในข้อหา “ ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นําเข้า นําออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6, 11 เป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร ตาม ป.อาญา มาตรา 209 และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1)” ไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว

โฆษก บช.สอท. กล่าวฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว เมื่อท่านได้รับข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์อ้างว่ามาจากหน่วยงานต่างๆ ให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะเป็นข้อความที่ถูกส่งเข้ากล่องข้อความเดียวกับหน่วยงานนั้นๆ เนื่องจากมิจฉาชีพสามารถปลอมแปลงชื่อผู้ส่งได้ ทั้งนี้ในปัจจุบันทุกธนาคารได้ยกเลิกการส่งข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์ไปยังประชาชนแล้ว หากท่านได้รับข้อความใดๆ เชื่อได้ว่าเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน และไม่ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใดก็ตาม ให้ระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ โดยหากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์เข้ามาในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด และหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานนั้นๆ ให้ช่วยตรวจสอบทันที เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ