เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บริเวณวัดบันไดนาค (วัดร้าง) ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังมีผู้ถ่ายภาพถ่ายติดวิญญาณ เป็นคนแก่มีเคราโผล่ออกมาจากซอกต้นโพธิ์เก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันวัดดังกล่าว ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแม่ไก่ ได้เช่าพื้นที่จากสำนักพุทธศาสนา สร้างอาคารสำนักงาน อบต.หนองแม่ไก่ มีสิ่งปลูกสร้างอาคารสวยงาม และยังมีการอนุรักษ์โบสถ์เก่า มีอิฐก่อโดยรอบ สูงประมาณ 1.20-1.50 เมตร และมีต้นไม้ขึ้นอยู่โดยรอบ ซึ่งพบว่ามีพระพุทธรูปปูนปั้น ตั้งอยู่บนเนินดินกลางโบสถ์ 3 องค์ และยังมีต้นโพธิ์เก่าแก่ขนาดใหญ่ มีรากสวยงามอยู่ด้านหลังวัดบันไดนาง มีเสาตะเคียนสูงประมาณ 4 เมตร ตั้งอยู่ 1 ต้น บริเวณโคนต้นโพธิ์มีศาลตายาย พร้อมกุมารทองและรูปปั้นฤษีอยู่ที่โคนต้นโพธิ์

จากการสอบถาม นายสัมพันธุ์ น้ำทอง พิธีกรรายการอินไททอล์ค ซึ่งผลิตด้านสื่อและข่าวต่างๆ ทางเพจเฟซบุ๊กข่าวอินไท และยูทูบ เล่าว่า ในช่วงเย็นถึงค่ำของวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้นำกองถ่ายทำรายการอินไททอล์ค ที่วัดบันไดนาค ในช่วงถ่ายทำรายการก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าคนแก่มีเคราโผล่ออกมาในซอกต้นโพธิ์เก่าแก่ ข้างวัดบันได้นาค จึงได้หยุดการถ่ายทำ พร้อมได้ทำการจุดธูปขอมา เมื่อถ่ายอีกครั้งก็ไม่พบรูปคนแก่มีเคราที่เห็นดั่งในภาพ

ด้านนายนิวัฒน์ เพชรสด รองนายก อบต.หนองแม่ไก่ เล่าว่า ตนได้เห็นภาพแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งที่บริเวณดังกล่าวนั้น เป็นวัดร้างเก่าแก่ ที่ผ่านมามีเรื่องราวอาถรรพณ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่เล่าสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ทางด้าน น.ส.ทวาย มังกรแก้ว นายก อบต.หมองแม่ไก่ เล่าว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้เห็นรูปภาพดังกล่าวแล้ว ก็ให้ทางนายสัมพันธุ์ มาจุดธูปบอกเล่าขอขมา แล้วก็ไม่พบเห็นภาพดังกล่าวอีก ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่วัดร้าง วัดบันไดนาค ปัจจุบันทาง อบต. ได้เช่าพื้นที่มาสร้างอาคารสำนักงาน อบต. โดยมีการปรับภูมิทัศน์ร่มรื่นสวยงาม โดยอดีตที่ผ่านมามีการนำศพคนแก่และเด็กมาฝังไว้ในพื้นที่บริเวณวัดร้าง เมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา ได้มีการขุดพบพระพุทธรูปปูนปั้น 3 องค์ ถูกตัดเศียรฝังอยู่ใต้โบสถ์ จึงได้อัญเชิญขึ้นมาพร้อมทำการสร้างเศียรและตั้งประดิษฐานไว้ให้กราบไหว้บูชา ที่เนินดินที่โบสถ์เก่าแก่ และยังมีพระพุทธรูปอีก 1 องค์ ที่ยังไม่สามารถอัญเชิญขึ้นมาได้ ปัจจุบันยังอยู่ใต้พื้นดินบริเวณดังกล่าว

ส่วน นายสำเนา มังกรแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.หนองแม่ไก่ เล่าว่า มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า มีชาวบ้านเข้าไปขุดค้นหาพระ และทรัพย์สมบัติบริเวณใต้โบสถ์วัดบันไดนาค ได้พบงูใหญ่โผล่ออกมาให้เห็น ชาวบ้านจึงหนีไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นในอดีตเป็นวัดร้าง และต่อมาเป็นป่าช้า มีการนำศพมาฝังไว้บริเวณดังกล่าว ชาวบ้านเคยเห็นลูกไฟขึ้นอยู่บริเวณดังกล่าวและหายไป ปัจจุบันได้มีการปรับภูมิทัศน์สวยงาม

สำหรับประวัติวัดบันไดนาค ตามตำนานเล่าขานว่า วัดบันไดนาคสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ประมาณปีพุทธศักราช 2280 พระพุทธศาสนาได้เจริญงอกงามรุ่งเรืองอย่างมาก และปีพุทธศักราช 2310 กองทัพพม่าได้เดินทางทัพมาทางด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ผ่าน จ.สุพรรณบุรี และมาตีค่ายบางระจัน ผ่านมาถึงวัดบ้านพราน ถึงวัดบันไดนาค พม่าได้ทำลายพระพุทธรูป โดยคิดว่าพระพุทธรูปข้างในเป็นทอง โดยใช้เลื่อยใช้ขวานบ้าง เจาะเข้าไป ทำให้พระพุทธรูปโดนตัดเศียร ตัดแขน ตัดลำตัว ต่อจากนั้น เมื่อพม่าได้ยกองทัพมาและทำลายทรัพย์สินของวัดบันไดนาค และได้ยกทัพไปยังฝั่งเมืองวิเศษชัยชาญ มุ่งไปยังเมืองหลวงอโยธยา ก่อนเมืองอโยธยาถูกพม่าทำลาย ในปีพุทธศักราช 2310 โดยวัดบันไดนาคเคยรุ่งเรือง ก็เสื่อมสภาพตามกาลเวลา คงเหลือเค้าโครงความสง่างาม ความสวยงาม บ่งบอกถึงความรุ่งเรือง คงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน.