จากกรณีนายอรรนพ หงษา อายุ 50 ปี ชาวอำเภอหล่มสัก ที่ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบและนอนติดเตียง ได้เสียชีวิต โดยที่ทางพ่อ คือ นายปอน หงษา อายุ 75 ปี ซึ่งมีอาชีพขับสามล้อรับจ้าง เฉลี่ยจะมีรายได้ประมาณวันละ 30–50 บาท ต้องใช้จ่ายแบบประหยัด เนื่องจากมีความพิการมองเห็นตาซ้ายข้างเดียว เพราะตาข้างขวาบอด อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคหลายโรครุมเร้า จึงทำงานได้ไม่เต็มที่ ได้นั่งมองศพลูกเพราะไม่มีเงินเผาศพ จนชาวบ้านได้เรี่ยไรเงินช่วยเหลือจัดงานศพลูกชายให้ ซึ่งก็ได้มีพิธีฌาปนกิจศพไปเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวาน (24 ก.ค.) ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดท่ากกโพธิ์ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก ซึ่งเป็นวัดที่จัดงานฌาปนกิจศพนายอรรนพ หงษา โดยมีนายปอน หงษา และเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง ได้นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีเก็บอัฐิของนายอรรนพ ตามประเพณี

ตาพิการยากจนวัย 75 นั่งมองศพลูกไม่มีเงินเผา ชาวบ้านสงสารเรี่ยไรช่วยจัดงานให้

นายปอน กล่าวว่า ตอนที่ลูกชายตายตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กระทั่งมีชาวบ้านและผู้ใจบุญที่ทราบข่าว ได้มาช่วยจัดงานศพจนผ่านพ้นไปด้วยดี ตนไม่เคยนึกเลยว่าจะจัดงานศพให้ลูกได้ขนาดนี้ และนอกจากนั้นก็ยังมีผู้ใจบุญที่ทราบข่าว ได้โอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ทำให้ตนตกใจมาก จึงได้ไปปิดบัญชีที่ใช้รับบริจาคแล้ว โดยยอดเงินที่ได้จำนวน 322,233.91 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ตนจะแบ่งปันเพื่อไปซื้อที่ดินแปลงเล็กๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่มาดำเนินการสร้างบ้านให้

“ต่อไปคงต้องเลิกประกอบอาชีพขับสามล้อ เพราะป่วยหลายโรค อีกทั้งตาก็มองเห็นเพียงข้างเดียว จากนี้ไปก็จะเข้าวัด ช่วยงานสังคมต่างๆ เท่าที่ร่างกายจะทำได้ ตนต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญทั้งหลาย ทำให้ตนมีชีวิตใหม่ และเชื่อว่าวิญญาณของลูกก็คงหมดห่วงตนแล้ว เพราะตอนมีชีวิตอยู่ ลูกได้บอกเสมอว่าไม่อยากให้พ่อขับสามล้อ อยากให้พ่อสบายในบั้นปลายของชีวิต” นายปอน กล่าว