เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงผลประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสรุปว่า ศบค.เห็นชอบคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัดเช่นเดิมประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 11 จังหวัด คงพื้นที่ เช่นเดิม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบคงเดิมมาตรการป้องกันการควบคุมโรคโควิด ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์เช่นเดิม ยกตัวอย่างพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และคงการทำงานที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) ถึงวันที่ 30 ก.ย. รวมถึงห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 5 คน, ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิด 20.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น, ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ไม่อนุญาตให้มีการบริโภคภายในร้านและไม่ให้จำหน่ายสุรา เปิดไม่เกินเวลา 20.00 น. โดยสามารถซื้อกลับบ้านได้

ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาเกต และในส่วนร้านยาเวชภัณฑ์ ซึ่งร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในห้าง เปิดขายได้ และเปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น., ส่วนร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬายังปิดให้บริการทั้งหมด ขณะที่สถานศึกษาทุกระดับ และสถาบันกวดวิชา ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน เช่นเดียวกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ยังคงมาตรการเดิม แต่เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมกำกับ ตามมาตรการ COVID Free Setting.