วันที่  31 ก.ค.ร.ต.อ​ รุ่งปัญญา  รอง สว.สอบสวน สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้ง มีเหตุทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 7 ต. บ้านชุ้ง​ อ.นครหลวง​จ.พระนครศรีอยุธยา​  ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน สมาคมอยุธยารวมใจไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

หน้าบ้านที่เกิดเหตุพบ ผู้บาดเจ็บเป็นหญิงมีบาดแผลถูกมีดกรีด บริเวณใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์  มีเลือดไหลออกมาเต็มใบหน้า  เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาล ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช ทราบชื่อต่อมา น.ส.วรรณา สุยะ​ อายุ 46 ปี​ชาวจังหวัดลำปาง  ตรวจสอบที่พื้น ลานหน้าบ้านไปจนถึงโต๊ะม้าหิน พบรอยเลือดหยดเป็น ใกล้กันพบมีดปอกผลไม้ ความยาวประมาณ  5 นิ้ว ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน 

สอบถาม ​นายสำราญ​   ลือขจร 55 ปี​  เจ้าของบ้าน​ เล่าให้ฟังว่า  ก่อเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้ามืดตน น.ส.วรรณา หรือ โอ๋ ผู้บาดเจ็บ กับนายอ๊อด ไม่ทราบชื่อจริงมานั่งดื่มสุรากันที่โต๊ะม้าหินหน้าบ้าน ส่วนตนเองเมาได้เข้าไปนอนพักผ่อนในบ้าน ส่วนผู้บาดเจ็บและนายอ๊อดยังนั่งดื่มสุรากันต่อ  ขณะกำลังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงทะเลาะกัน เอะอะโวยวายเสียงดัง จึงออกมาดูพบว่านายสมคิด​ แย้มบุปผา​  อายุ 51 ปี สามีของ ผู้บาดเจ็บ กำลังต่อว่ามีปากเสียงกับผู้บาดเจ็บอยู่ นายสมคิด ได้ไปหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆมากรีดที่ใบหน้าผู้บาดเจ็บจนล้มลง และพยามยามใช้อาวุธมีดไล่แทง นายอ๊อด จนนายอ๊อด ต้องวิ่งหลบหนี ส่วนนายสมคิด​ หลังจากก่อเหตุได้กลับไปที่บ้านที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง ได้ติดตามไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นนำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.นครหลวง 

จากการสอบถาม  นายสมคิด ผู้ก่อเหตุได้ ​ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายภรรยา ที่ทำไปเพราะความโมโหหึงหวง จนเลือดขึ้นหน้า  ที่เห็นผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นภรรยาของตนเองกำลังนั่งดื่มสุรา กับนายอ๊อด​ที่เป็นเพื่อนตนเองกันอย่างมีความสุข เข้าไปต่อว่าพร้อมกับเดินไปหยิบมีด​มากรีดหน้าผู้บาดเจ็บตนเองยอมรับผิดสิ่งที่ได้ทำลงไป เพราะเหลืออดจริงๆอยู่กินกับผู้บาดเจ็บ มา 6-7 ปี ต้องทนกับพฤติกรรมของผู้บาดเจ็บ เคยตักเตือนหลายครั้ง  ครั้งนี้ตนเองทนไม่ไหวจริงจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายสมคิด ไว้ เพื่อดำเนินคดี พร้อมกับรอผลการพิสูจน์ตรวจบาดแผล จากทางแพทย์เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป