เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีร่วมกันกบฏ ก่อการร้าย หมายเลขดำ อ2732/2562 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนัสเซอร์ ยีหมะ ที่ 1 นายอุทัย ยอดมณี ที่ 2 นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ที่ 3 น.ส.จิตภัสร์ หรือตั๊น กฤษฎากร ที่ 4 นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ที่ 5 นายประกอบกิจ อินทร์ทอง ที่ 6 และ นายหรือ รอง ศ.ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์สอนวิชากฎหมายในหลายมหาวิทยาลัย เป็นจำเลยที่ 1-7 ตามลำดับในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นกบฏก่อการร้าย สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ

โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 62 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56-1 พ.ค. 57 จำเลยกับพวกซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้ป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบบรรณ เลขาธิการ กปปส. จำเลย ที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วร่วมกันกับพวกจำเลยคดีนี้ มั่วสุม เป็นกบฏสมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดินและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่ง ยุยง ปลุกระดม ให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง โดยพวกจำเลยเข้าร่วมการชุมนุม ในนามกลุ่ม กปปส. ใช้กำลัง นักรบศรีวิชัย นักรบตะนาวศรี กลุ่มกระเบนธง บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการและหน่วยงานต่างๆ ขัดขวางต่อสู้ ขู่เข็ญเพื่อไม่ให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้ ประกาศปิดกรุงเทพมหานคร (BANGKOK SHUT DOWN) ตั้งเวทีปราศรัยปิดกั้นการจราจรสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 แห่ง โดยรอบเวทีชุมนุมได้นำเครื่องกีดขวาง อาทิ รั้วลวดหนาม แท่งแบริเออร์ ยางรถยนต์ฯ พร้อมกับจัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ ขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง สส. ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค. 56 และการใช้สิทธิของประชาชน ในการลงคะแนนล่วงหน้าวันที่ 26 ม.ค. 57 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ. 57 โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

เมื่อถึงเวลานัด ทนายจำเลย เดินทางมาศาล ส่วนจำเลยบางส่วนไม่เดินทางมาศาล

ทางด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายคามของ จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 7 กล่าวว่า การฟังคำพิพากษาครั้งนี้ เป็นนัดแรก ของคดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในช่วงปี 2556-2557 หรือคดีกบฏเล็ก ซึ่งคดีดังกล่าว มีเอกสารหลักฐานจำนวนมากกว่า 4 หมื่นแผ่น ในการที่ศาลจะพิจารณา จึงมีเหตุจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบให้อบคอบ เป็นเหตุให้ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา เป็นวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ส่วนการเลื่อนคดีวันนี้ ได้แจ้งให้ลูกความรับทราบวันเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาแล้ว.